iPhone 12 มาแล้ว รอเคาะราคาไทย

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:4 Minute, 1 Second

มาแล้วจ้า iPhone 12 งานนี้มาแบบเปลี่ยนหน้าตากันชัดเจน ตอบสนองรองรับ เทคโนโลยี 5G และยังคง การรองรับ 4G โดยเครื่องจะแสดงความชาญฉลาดสวิทเลือกสัญญาณเองกับสัญญาณที่ดีที่สุดเร็วที่สุด เมื่อพื้นที่นั้นมีสัญญาณ 5G เขาก็จะเลือกใช้ 5G แต่ถ้าไม่มีเขาจะกลับไปเลือก 4G แบบอัตโนมัติ

คราวนี้ iPhone 12 มีให้เลือก 4 รุ่น เริ่มกันที่ iPhone 12 จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1″ กับ iPhone 12 mini จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 5.4″
มีค่า Contrast 2,000,000 : 1 หน้าจอสวยและความละเอียดมากกว่า iPhone 11 รองรับ Dolby Vision และกระจกเป็นแบบ Ceramic Shield แข็งแรงกว่าเดิม 4 เท่า ตัวเครื่องบางลง 11%, เบาขึ้น 16% และ เล็กลง 15% เมื่อเทียบกับ iPhone 11

กรี๊ดร้องกันเลย สำหรับคนที่ถือ iPhone 11 อยู่ในมือ

ตัวเครื่อง iPhone 12 มีให้เลือก 5 สีคือ เขียว, ขาว, ดำ, น้ำเงิน และ Product Red

ประสิทธิภาพของ iPhone 12 จะมาพร้อมกับ CPU Apple A14 และมาพร้อมกับขนาด 5 นาโนเมตรที่เร็วกว่าเดิม 50% ทั้ง CPU GPU พร้อม Neural Engine ที่มีขนาด 16 Core รายละเอียดสามารถอ่านต่อได้ที่บทความนี้ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้การเล่นเกมของมือถือรุ่นนี้ทำได้ดี

กล้องหลังจะเปลี่ยนแปลงที่กล้องตัวหลักจะเพิ่มรูรับแสงให้กว้างขึ้นถึง f1.6 ทำให้ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีและมีการเก็บรายละเอียดภาพที่ดีขึ้น และมีการเก็บรับละเอียดได้มากขึ้น Night Mode จะดีขึ้นและสามารถถ่ายภาพ ออกมาสวยแม้จะถ่าย Selfie

วิดีโอของ iPhone 12 จะเพิ่มคุณภาพที่ดีขึ้นกับ Night Mode Time-Lapse เพราะรูรับแสงจับได้กว้างมากขึ้นทำให้การเก็บรายละเอียดภาพกลางคืนได้ดีมากกว่าเดิม

Wireless Charging มีการฟีเจอร์ MagSafe จะทำให้การชาร์จไฟไร้สายมีปัญหาน้อยลง ที่เก๋ คือ การออกแบบเคสจะมีแม่เหล็กฝั่งภายใน แต่ไม่มีผลการทำงานอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน แถมยังรองรับเกี่ยวกับนำไป Recycle ได้เลย

ในกล่องก็จะมีการไม่ได้ให้ที่ชาร์จและหูฟัง ทำให้กล่องจะบางลง ลดการเกิด Carbon นอกจากลดต้นทุน ยังลดคาร์บอนได้ด้วย

iPhone 12 Mini
64GB = 729 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 22,xxx บาท
128GB = 779 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 24,xxx บาท
256GB = 879 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 27,xxx บาท
iPhone 12
64GB = 829 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 25,xxx บาท
128GB = 879 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 27,xxx บาท
256GB = 979 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 30,xxx บาท

เริ่มวางจำหน่าย 16 พฤศจิกายน ในบางประเทศ และ 3 พฤศจิกายน จะเริ่มเปิดจอง ส่วนประเทศไทยต้องรอประกาศอีกครั้ง

อีก 2 รุ่น คือ iPhone 12 Pro ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ และ iPhone 12 Pro Max จะมีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว รวมแล้วขนาดใหญ่กว่า iPhone 11 แต่ขอบเครื่องเป็นเงา สวยงาม

ส่วนเรื่องของสีสัน iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max ประกอบด้วย Silver, Graphite, Gold, Pacific Blue และมีแม่เหล็กด้านหลัง MagSafe เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก

ชิปนั้นมาพร้อมกับ Apple A14 แต่มีการเพิ่ม ISP หรือ Image Signal Processor ทำให้การเพิ่มกล้องที่ 4 หรือ LiDAR

ส่วนกล้องหลัง 3 เลนซ์ ของ iPhone 12 Pro ประกอบด้วย 12 ล้านพิกเซล Wide F1.6, 12 ล้านพิกเซล Ultra Wide และ 12 ล้านพิกเซล Telephoto ซูมได้ 4 เท่า ส่วน iPhone 12 Pro Max จะมาพร้อมเปลี่ยนกล้องตัว Telephoto ให้ซูมได้ 5 เท่า เพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งกล้องและเซนเซอร์ให้เซนเซอร์มีการขยับได้ ส่งผลให้การถ่ายภาพได้สวยมากขึ้น และยังเพิ่มฟีเจอร์บันทึกแบบ ApplePro RAW ที่สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้ดี แต่ว่าการซูมของกล้องวิดีโอ รุ่น Pro Max จะทำได้ดีกว่า

ส่วนราคา iPhone 12 Pro / iPhone 12 Pro Max นั้นมีดังนี้
iPhone 12 Pro เริ่มต้น 999 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 31,xxx บาท
128GB = 999 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 31,xxx บาท
256GB = 1,099 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 34,xxx บาท
512GB = 1,299 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 40,xxx บาท

iPhone 12 Pro Max เริ่มต้น 1,099 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 34,xxx บาท 128GB = 1,099 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 34,xxx บาท
256GB = 1,199 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 37,xxx บาท
512GB = 1,399 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 43,xxx บาท

เริ่มเปิดจอง 16 ตุลาคม และวางจำหน่าย 23 ตุลาคม ส่วน iPhone 12 และ iPhone 12 Mini จะเริ่มเปิดจองใน 6 พฤศจิกายน และ วางจำหน่าย 16 พฤศจิกายน สำหรับประเทศไทยรอประกาศอีกครั้งเช่นกัน

ส่วนรายละเอียดทั้งหมดทั้งมวล ดูได้เลยที่ Apple.com/th

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

โครงการคนละครึ่งเริ่มลงทะเบียนพรุ่งนี้

นายพรชัย  ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระบบการลงทะเบียนและแอปพลิเคชันต่างๆ ของโครงการคนละครึ่งมีความพร้อมแล้วสำหรับการเปิดรับลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ตุลาคม 2563)  เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น.