0
0
ในโลกที่เต็มไปด้วยแบรนด์นับพันที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด การจะรักษาความเป็น “ต้นตำรับ” ให้ยังอยู่ในใจผู้บริโภคได้นานนับสิบปี นับเป็นความท้าทายไม่ต่างจากการเริ่มต้นใหม่ในทุกวัน เช่นเดียวกับ “มะขามสารัช” แบรนด์ขนมมะขามแปรรูปจากเมืองเพชรบูรณ์ ที่เริ่มต้นจากความรักในบ้านเกิดของผู้หญิงคนหนึ่ง สู่การสร้างอาณาจักรธุรกิจครอบครัวที่เติบโตต่อเนื่องมาเกือบ 50 ปี และวันนี้กำลังถูกส่งต่อสู่รุ่นลูก…บนเป้าหมายใหม่คือ “เวทีโลก”
จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ
“สารัช กมลธรไท” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สารัช มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เติบโตมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของคนในครอบครัวในรุ่นคุณแม่ สุภาลักษณ์ กมลธรไท ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สารัชมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ทุกคนช่วยกันปอกมะขามในบ้านหลังหนึ่งของอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เขาเห็นตั้งแต่วันที่มะขามเพียงไม่กี่กระสอบถูกแปรรูปด้วยกรรมวิธีพื้นบ้าน จนวันหนึ่งแบรนด์ “มะขามจี๊ดจ๊าด” กลายเป็นชื่อที่คนทั่วประเทศรู้จักในรสเปรี้ยวโดนใจ
ด้วยความเข้าใจในพืชเศรษฐกิจหลักของบ้านเกิด และความตั้งใจที่ไม่เคยลดลง สารัชได้นำความเชี่ยวชาญในการแปรรูปมะขามมาพัฒนาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย หลากหลาย และตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน สร้างแบรนด์ที่แข็งแรงขึ้นโดยไม่ทิ้งรากเหง้าความเป็นท้องถิ่น
ปั้นแบรนด์ด้วยรสชาติ และหัวใจของผู้บริโภค
“มะขามสารัช” ไม่ได้หยุดอยู่ที่สูตรดั้งเดิม แต่เดินหน้าสร้างสรรค์กว่า 30 รสชาติ และมากกว่า 100 SKU ภายใต้แบรนด์ย่อยถึง 4 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น SARACH ที่เจาะตลาดแมส, Alisa สำหรับกลุ่มสาวยุคใหม่, Ashira San ที่เล่นสนุกกับรสสัมผัสใหม่ๆ ไปจนถึง SARACH GOLD แบรนด์ระดับพรีเมียมที่ถ่ายทอดความเป็นมะขามแท้คุณภาพสูงจากเพชรบูรณ์
หัวใจสำคัญของทุกผลิตภัณฑ์ คือมะขามที่ผ่านการรับรอง GI (Geographical Indication) จากเพชรบูรณ์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสหวานอมเปรี้ยว อัตลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีใครลอกเลียนได้
รีเฟรชแบรนด์ด้วยนวัตกรรม ตอบเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 “มะขามสารัช” ไม่เพียงแต่อยู่รอด แต่กำลังรีเฟรชตัวเองอีกครั้งเพื่อเติบโตอย่างก้าวกระโดด สารัชเผยว่าแบรนด์เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 10 รายการที่ให้สัมผัสของมะขามในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งลงทุนจัดกิจกรรมการตลาดออนไลน์–ออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของ “มะขามจี๊ดจ๊าด” ที่ยังคงความอร่อยต้นตำรับไว้ครบถ้วน
ขณะเดียวกัน ยังรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในออสเตรเลีย เวียดนาม สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และกลุ่ม EU โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนตลาดส่งออก พร้อมเปิดรับนักลงทุน OEM ที่ต้องการนำรสชาติของมะขามเพชรบูรณ์ไปทำตลาดในต่างประเทศ
เติบโตไปพร้อมชุมชน ไม่ทิ้งรากเหง้า
แม้ธุรกิจจะเติบโต แต่สิ่งที่สารัชไม่เคยลืม คือบ้านเกิด และคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างแท้จริง — “เกษตรกรผู้ปลูกมะขาม”
มะขามสารัชรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรด้วยราคายุติธรรม พร้อมผลักดันการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ พัฒนาเกษตรกรให้เข้าถึงเทคโนโลยี มีองค์ความรู้ในการปลูกและแปรรูปอย่างมืออาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานเดียวกัน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชนหลายพันครัวเรือนในจังหวัดเพชรบูรณ์
จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก บนวิสัยทัศน์สู่เวทีโลก
วันนี้ “มะขามสารัช” กำลังอยู่ในมือของทายาทรุ่นใหม่ที่สานต่อวิสัยทัศน์จากรุ่นแม่ พร้อมด้วยทีมงานที่มีพลังสร้างสรรค์และแนวคิดแบบสากล แม้จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น แต่สารัชกำลังเปลี่ยนมะขามไทยให้กลายเป็น “ของฝากจากประเทศไทย” ที่ผู้บริโภคทั่วโลกจดจำ
ในโลกของธุรกิจแปรรูปที่หมุนเร็วไม่มีหยุด “มะขามสารัช” คืออีกหนึ่งตัวอย่างของแบรนด์ไทยที่ยึดมั่นในรากเหง้า ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นแรงขับ และไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
