‘ซัมซุง’ สร้างอนาคตไทย เติมทักษะ พัฒนาคน ดูแลสิ่งแวดล้อม

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:5 Minute, 16 Second

จากแนวทางของผู้บริโภคยุคใหม่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจกว่า 80% คือวิสัยทัศน์และพันธกิจของแบรนด์ ที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจของแบรนด์ในการผลักดันแนวความคิด และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ของแบรนด์ ที่ใช้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อเป็นส่วนขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปยังอนาคตที่ดีกว่าเดิม

ไทยซัมซุง ยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้คนรอบข้าง ภายใต้แนวคิด “มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน” (Together for Tomorrow! Enabling People) ใน 3 แง่มุมหลัก ได้แก่ Education (การศึกษา), Empowering (เติมเต็มความสามารถ), และ Environment (สิ่งแวดล้อม)

Education: อนาคตของสังคมเริ่มต้นที่เยาวชนของชาติ

ซัมซุงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา จึงทำกิจกรรมมอบโอกาสในการเข้าถึงความรู้และทักษะที่จำเป็นอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะมาจากไหน อายุเท่าไร หรือมีข้อจำกัดอะไรก็ตาม ไทยซัมซุงช่วยส่งเสริมเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อจะได้เป็นแรงขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคต

ผลการศึกษาของ McKinsey & Company พบว่า เมื่อเทคโนโลยีรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ช่องว่างทางโอกาสการเติบโตในสายอาชีพก็เพิ่มสูงขึ้น โดยคนที่มีความรู้และทักษะทางเทคโนโลยี จะมีการเติบโตที่มากกว่า นี่จึงเป็นแรงผลักดันให้ไทยซัมซุง จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Samsung Innovation Campus หรือ SIC โครงการที่ส่งเสริมทักษะในยุคดิจิทัลผ่านการอบรมโค้ดดิ้ง (Coding) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและบุคลากรทางการศึกษาของไทย ให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมโค้ดดิ้ง และยังมีตัวอย่างความสำเร็จ อย่าง นายภาสกร ภัทรภากร อดีตนักเรียน SIC ที่สามารถเข้าศึกษาต่อที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หลักสูตรนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และกลับมาเป็นผู้ช่วยสอนในโครงการ SIC ปีต่อมาอีกด้วย

นอกจากนี้ ไทยซัมซุงยังให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมด้านการศึกษาของเด็กไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา ที่เด็กไทยจำเป็นต้องเรียนหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ซัมซุงจึงเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศได้เข้าถึงการศึกษารูปแบบใหม่ โดยการมอบแท็บเล็ตให้โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร และช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้ และยังนับเป็นการปูพื้นฐานเพื่อพร้อมรับรูปแบบใหม่ของการเรียนรู้แห่งอนาคตให้กับเด็กไทย

ด้านทักษะในสายอาชีพ ไทยซัมซุงให้ความสำคัญกับความสามารถและพรสวรรค์ในงานช่าง ผ่านโครงการ Samsung Dual Vocational Education หรือ Samsung DVE ที่สร้างพื้นที่ให้กับนักเรียนสายอาชีวะได้แสดงความสามารถและเพิ่มโอกาสการทำงาน โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พัฒนานักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ได้เข้าไปเรียนรู้และสัมผัสกับโลกของการทำงานจริงในศูนย์บริการซัมซุงทั่วประเทศ

Empowering: ดูแลคนไทยอย่างใส่ใจ ร่วมสร้างอนาคตที่สดใส

ซัมซุงสนับสนุนพนักงานให้พัฒนาทักษะและความสามารถให้เต็มศักยภาพ เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับเข้าถึงคลังความรู้หลายหลายรูปแบบ หลายวิชา บนหลายแพลตฟอร์ม โดยจัดสรรงบราว 10 ล้านบาทต่อปี เพื่อสนับสนุนคอร์สเรียนต่างๆ ที่พนักงานต้องการได้รับความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ด้านการบริหาร หรือ ความรู้เชิงเทคนิค ทำให้พนักงานของไทยซัมซุงมีความสามารถรอบด้าน และสามารถรับมือกับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ส่วนในภาคสังคม ไทยซัมซุงร่วมมือกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด สนับสนุนสมาร์ทดีไวซ์ เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ใช้ควบคู่ไปกับโซลูชันการเกษตรอัจฉริยะ และเข้าถึงเทคโนโลยีโดรนและภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อนำข้อมูลมาบริหารจัดการพื้นที่ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้สูงสุดถึง 20%

นอกจากนี้ ยังพัฒนาแรงงานฝีมือ ที่ทำงานใกล้ชิดกับซัมซุงในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ โดยพัฒนาโครงการ AC Installer Community ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดทำคอร์สฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ เพื่อพัฒนาศักยภาพและความสามารถ พร้อมยกระดับทักษะให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตลอดจนส่งเสริมให้ช่างมีใบรับรองตามกฎหมาย เพื่อเพิ่มทรัพยากรบุคคลให้ตลาดที่กำลังขาดแคลนแรงงานที่มีความสามารถและทักษะในการปฏิบัติการ

Environment: ดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ซัมซุงเริ่มให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2535 ด้วย ปฏิญญาด้านสิ่งแวดล้อม (Samsung Environmental Declaration) ไทยซัมซุงรับเอาวิสัยทัศนะ “Planet First” มาใช้ในประเทศไทยและได้ต่อยอดให้เกิดเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การผลิต ประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดการขยะอิเลคโทรนิคส์

ไทยซัมซุงเริ่มต้นดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต โดยการลดปริมาณขยะพิษและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ เช่น โรงงานผลิตเตาอบของไทยซัมซุงเปลี่ยนวิธีการเคลือบผิวเครื่องใช้ไฟฟ้าจากการใช้สารเคมีประเภทกรดปริมาณมากในการเคลือบผิวด้านในของเตาอบ มาเป็นการใช้วิธี Low Temperature Coating ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในกระบวนการนี้เลย (Zero Chemical Waste) อีกทั้งเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรน้ำในการทดสอบการรั่วไหลของผลิตภัณฑ์ มาเป็นใช้ความดันลมแทน ทำให้ลดการสร้างปริมาณน้ำเสียลง

ส่วนของบรรจุภัณฑ์ ได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุกระดาษหรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์แทนการใช้พลาสติก ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึงกล่องบรรจุภัณฑ์อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น บรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S21 Series 5G มีส่วนประกอบของพลาสติกอยู่เพียง 4% และใช้กระดาษเพียง 58% เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy S7 ส่งผลให้ปริมาณการตัดต้นไม้ลดลงถึง 44,802 ต้นต่อปี

นอกจากนี้ ยังออกแบบบรรจุภัณฑ์ทีวีแบบ Eco Packaging เป็นพิเศษเพื่อการรียูส (reuse) ให้ผู้ซื้อได้มีส่วนร่วมในการักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์มาทำเป็นของใช้ภายในบ้านได้หลากหลายรูปแบบ

ไทยซัมซุงยังส่งเสริมการกำจัดขยะอิเลคโทรนิคส์อย่างถูกต้อง เพื่อลดมลพิษและสารพิษ ผ่านแคมเปญ “เก่าแลกใหม่” เปิดโอกาสให้นำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าไม่จำกัดแบรนด์มารับส่วนลดเพื่อซื้อเครื่องใหม่ได้ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสภาพเครื่อง และยังร่วมมือกับ AIS ทำโครงการ “คนไทย ไร้ E-Waste” ชวนคนไทยทิ้งขยะอิเลคโทรนิคส์ที่ถังขยะ E-Waste ณ ซัมซุงสโตร์ โดยโครงการนี้สามารถนำขยะอิเลคโทรนิคส์ไปกำจัดอย่างถูกวิธีแล้วมากกว่า 2 แสนชิ้น

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

ไบเทค คว้ารางวัลอาคารรักษ์โลก จาก พพ.

ไบเทค คว้ารางวัล Thailand Energy Award เดินหน้าองค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าบริหารธุรกิจแบบยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน