บูติคนิวซิตี้ ปั้นองค์กรสู่ Green Industry

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 26 Second

บูติคนิวซิตี้ พลิกโฉมองค์กรสู่ Green Industry ผ่านโครงการ A’MAZE Green Society ปักธง Fabric Zero Waste ลดขยะเหลือทิ้งเป็นศูนย์ พร้อมผนึกพันธมิตรยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่น

ประวรา เอครพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจบนเส้นทางความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “THE FUTURE OF SUSTAINABLE FASHION” ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ Green Industry ร่วมมือกับพันธมิตรสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของกระบวนการผลิต นำทรัพยากรส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านโครงการ A’MAZE Green Society พร้อมเปิดรับเรียนรู้สิ่งใหม่ใช้พัฒนาทั้งโครงสร้าง วิธีการทำงาน บุคลากร ใส่ใจในรายละเอียดของสินค้า ลงมือทำสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง จุดประกายให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน ตลอดมีธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อเพิ่มความยั่งยืนให้โลก

ประวรา เอครพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC

บูติคนิวซิตี้ ขับเคลื่อนธุรกิจตามกรอบ ESG ที่คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmenttal) สังคมและชุมชน (Social) รวมถึงธรรมาภิบาลที่ดี (Governance) เริ่มจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำทรัพยากรส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้ง Upcycle และ Recycle ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน มีเป้าหมายลดขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเป็นศูนย์ ด้วยระบบ Zero Waste Process โดยบริษัทพร้อมเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่เข้ามาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงนำพาประเทศไทยสู่ Net Zero จากที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรมากมาย อาทิ โรงพยาบาลพญาไท Q-CON และ SC Grand เป็นต้น

การเดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืน บูติคนิวซิตี้ เน้นรูปแบบ Sustainability Fashion ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การใช้เครื่องจักร รูปแบบการตัดเย็บ การย้อม การพิมพ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณขยะจากขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งควบคุมต้นทุน เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีในรูปแบบ Timeless Design สวยงามและใช้ได้ยาวนาน สะท้อนจุดยืนชัดว่าไม่ได้มีลักษณะเป็น fast fashion ที่ทำให้ fashion is waste กับโลกใบนี้

ครึ่งหลังปี 2567 บูติคนิวซิตี้ยังควเดินแผนการตลาด ผ่านการรับฟัง เข้าใจ และเรียนรู้ระหว่างคนในแต่ละเจเนอเรชั่น เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ลดเวลาในการทำงานแต่ยังสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเน้นพัฒนาระบบเทคโนโลยีในทุกหน่วยงาน เช่น ช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การนำข้อมูล (Data) ที่มีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบจำนวนมาก มาปรับปรุงให้มีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ หรือแนวทางแก้ปัญหา ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้าสร้างผลิตภัณฑ์ด้าน ESG สร้างเป็น Collection ใหม่ๆ ในสัดส่วนอย่างน้อย 30% เช่น

· RE-LOOP Collection การใช้ผ้า Recycle ที่ร่วมมือกับ SC grand นำผ้า 5% ที่เหลือจากการผลิตในรอบแรกมาสร้างเป็นผ้าผืนใหม่ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์

· การขยายผลจากการ Upcycle เสื้อเหงาสีขาวของบริษัทด้วยการทำ Organic Indigo พร้อมที่จะสร้างเป็น โครงการ Your Own Organic Indigo โดยรับเสื้อผ้าสีขาวของลูกค้ามาเติมชีวิตใหม่โดยการมัดย้อมครามร่วมกับชุมชนย้อมครามจังหวัดสกลนคร

· การเลือกผ้าพิมพ์สวยๆ ที่พิมพ์ด้วยเทคนิคพิเศษ ลดการใช้ปริมาณความร้อนในการพิมพ์ แต่ได้ผ้าที่สวยทน และ สวยนิสัยดี ทั้งหมดคาดว่าจะเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของคอลเลคชั่นที่จะเกิดขึ้น และจะเพื่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผ้าที่เหลือนำมาพัฒนาใหม่ เป็นคอลเลกชันต่อไป

พร้อมกันนี้ ยังส่งเสริมความเท่าเทียม ผ่าน GSP X Alex ที่เป็นการปลุกความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินรุ่นใหม่ ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ เป็นเด็กพิเศษหรือปกติ

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

BSGF ต่อยอด “ทอดไม่ทิ้งเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม”

BSGF ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “ทอดไม่ทิ้งเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม” พร้อมจัดอบรมแนวทางการดำเนินงานการจัดการน้ำมันทำอาหารใช้แล้ว

You May Like