สยามคูโบต้า ดัน “ถั่วเหลืองอินทรีย์” ขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจ

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:2 Minute, 29 Second

สยามคูโบต้า เร่งเครื่องขับเคลื่อนการพัฒนา “ถั่วเหลืองอินทรีย์” ด้วยโซลูชัน KAS ครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมแปลงเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว ด้วยนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ พร้อมผลักดันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชผักปลอดภัยท่าเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ สู่ต้นแบบและ “ศูนย์เรียนรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองอินทรีย์” แห่งแรก

วราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันไทยยังต้องนำเข้าถั่วเหลืองกว่า 3 ล้านตันต่อปี มูลค่าสูงถึง 60,000 ล้านบาท สยามคูโบต้ามองเห็นโอกาสในการลดการพึ่งพาการนำเข้า พร้อมสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย โดยเฉพาะในฤดูหลังนา ด้วยการแนะนำเทคโนโลยีการเพาะปลูกถั่วเหลืองแบบแม่นยำ ผ่าน KAS (KUBOTA Agri Solutions)ที่เริ่มตั้งแต่การจัดการฟาง การไถกลบตอซังเพื่อคืนธาตุอาหารสู่ดิน การเตรียมแปลงด้วยเครื่องจักร ความแม่นยำในการหยอดเมล็ดที่ช่วยลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์จาก 30 เหลือเพียง 15 กิโลกรัมต่อไร่ ไปจนถึงการดูแลรักษาด้วยโดรน และการเก็บเกี่ยวด้วยรถเกี่ยวนวดที่ติดหัวเก็บเกี่ยวถั่วเฉพาะทาง

วราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ต้นแบบสำเร็จ: ถั่วเหลืองอินทรีย์ให้ผลผลิต 300 กิโลกรัมต่อไร่

โครงการฯ เริ่มต้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชผักปลอดภัยท่าเดื่อ ซึ่งร่วมพัฒนาเกษตรกรรมแบบอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2566 โดยในปี 2567 สามารถขยายพื้นที่ปลูกด้วยเครื่องจักรครบวงจรจาก 5 ไร่เป็น 102 ไร่ และได้ผลผลิตสูงถึง 300 กิโลกรัมต่อไร่ ถือเป็นความสำเร็จที่ยืนยันถึงศักยภาพของการทำเกษตรอินทรีย์ควบคู่เทคโนโลยี

จังหวัดชัยภูมิหนุนเต็มที่ พร้อมดันสู่แหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์

ธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกถั่วเหลืองอินทรีย์หลังฤดูข้าว เป็นการปรับการใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำ ฟื้นฟูดิน และเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจังหวัดที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรรมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงการแปรรูปและตลาด

เสียงจากเกษตรกร: “เทคโนโลยีช่วยประหยัดแรงงาน ผลผลิตสูงขึ้น”

บัวโฮม สาริพันธ์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงว่า จากการเปลี่ยนแนวทางการผลิตมาเป็นระบบอินทรีย์ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ของสยามคูโบต้า เกษตรกรสามารถลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่มความแม่นยำ และยกระดับผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ

อนาคตของถั่วเหลืองอินทรีย์ไทย

ความร่วมมือระหว่างเกษตรกร ภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ทำให้ “ถั่วเหลืองอินทรีย์” มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย ทั้งในแง่ของการบริโภคภายในประเทศและการต่อยอดสู่อุตสาหกรรม โดยศูนย์เรียนรู้ฯ ที่ชัยภูมิจะกลายเป็นโมเดลต้นแบบให้เกษตรกรทั่วประเทศสามารถนำไปปรับใช้ เพิ่มคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

บ้านปู เดินหน้า Net Zero ผนึกกำลังภาคี ดันพลังงานสะอาดและนวัตกรรมลดคาร์บอน

บ้านปู ชูกลยุทธ์ Energy Symphonics เดินหน้าลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 20% ปี 2030 และ Net Zero 2050 ขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจสีเขียว พร้อมจับมือ มหิดล ปั้นผู้นำรุ่นใหม่แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

You May Like