0
0
สยามคูโบต้า ผลักดันภาคการเกษตรไทยก้าวสู่ยุคเกษตรยั่งยืน ผ่านโซลูชั่นเทคโนโลยีและการบริหารจัดการที่ครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Sustainable AgreenCULTURE” ที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและการดูแลสิ่งแวดล้อม ชู KUBOTA FARM ศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรุ่นใหม่
วราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีในภาคการเกษตรไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มผลผลิตและสร้างความยั่งยืน โดยเฉพาะการนำ โดรนเพื่อการเกษตร และระบบ Kubota Intelligence Solutions (KIS) มาใช้ในการบริหารจัดการฟาร์มแบบดิจิทัล ช่วยให้เกษตรกรติดตามการทำงานของเครื่องจักรผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย
ก่อนหน้านี้ สยามคูโบต้าได้ลงพื้นที่ ศึกษาและเรียนรู้เกษตรกรไทย ซึ่งพบว่าเจอปัญหามากมายทั้งจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม น้ำแล้ว ดินมีปัญหา และอื่นๆ ซึ่งพบว่าเครื่ืองจักรอย่าเงดียวไม่สามารถแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์เกษตรกรได้ทั้งหมด เกษตรกรต้องเรียนรู้ รู้จักวางแผนพื้นที่ การปรับระดับดินด้วยเลเซอร์ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบน้ำเข้าน้ำออก และการนำของเสียทางการเกษตรไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การผลิตไบโอชาร์หรือพลังงานชีวมวล ซึ่งเรื่องเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยีและการนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ อย่างเหมาะสม
เช่น การนำโดรนมาเป็นเครื่องมือสำคัญทางการเกษตร ที่ไม่เพียงทำหน้าที่สำรวจพื้นที่ พ่นยา แต่ยังสามารถใช้ลมจากโดรนช่วยลดความชื้นในพืชได้ และนั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สยามคูโบต้า สามารถทำยออดขายโดรนเติบโตได้ต่อเนื่องตอลด 3 ปีที่เริ่มทำตลาด
วราภรณ์ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของสยามคูโบต้า ปัจจุบันไม่ใช่เพียงการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องจักรทางการเกษตร แต่ได้พัฒนานำโซลูชั่นต่างๆ มาต่อยอด ทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำเกษตรมากขึ้น ซึ่งมีทั้งการพัฒนาวิจัยร่วมกับพันธมิตร และการร่วมมือกับสตาร์ทอัพ ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น การใช้แอปพลิเคชัน KI Field เพื่อช่วยวางแผนการจัดการฟาร์ม และการพัฒนาเทคโนโลยี NIR สำหรับการวิเคราะห์คุณภาพดินและผลผลิต
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเครื่องจักรที่ติดตั้งระบบ KIS (Kubota Intelligennge Solutions) นวัตกรรมอัจฉริยะ เฉพาะเครื่องจักรของคูโบต้า ที่จะเชื่อมโยงระบบการทำงานของเครื่องจักรเข้ากับโทรศัพท์มือถือ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์เกษตรกรมากยิ่งขึ้น
คูโบต้าฟาร์ม: ศูนย์กลางการเรียนรู้เกษตรยั่งยืน
สยามคูฌบต้า ยังได้พัฒนา คูโบต้าฟาร์ม ในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ล่าสุดได้จัดกิจกรรม “KUBOTA FARM Agtech Possibility” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainable AgreenCULTURE พลิกโฉมเกษตรกรรมสู่ความยั่งยืน เติมเต็มทุกประสบการณ์ให้เกษตรกรรุ่นใหม่ได้รับความรู้แบบจัดเต็ม ทั้งการนำเสนอคิดค้น พัฒนา และขับเคลื่อนโซลูชันภาคการเกษตรให้เกิดรูปธรรม พร้อมเปิดมุมมองใหม่ที่ทำได้จริงและเป็นไปได้ ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม Workshop ในสถานีต่างๆ ภายในคูโบต้าฟาร์ม ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของคูโบต้าในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ และต่อยอดแรงบันดาลใจ
ในงานยังมี รศ.ดร.สุดเขตต์ นาคะเสถียร รองธิการบดีฝ่ายวิจัยและสร้างสรรคค์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีบรรยายให้ความรู้ถึงทิศทางเกษตรที่ต้องตอบบริบทของประชากรโลก ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศตัวเองเท่านั้น และเครื่องมือสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในการเกษตรยุคใหม่คือนวัตกรรมเทคโนโลยี เอไอ และการสร้างเน็ตเวิร์ค ที่สามารถต่อยอดสู่ เกษตรแม่นยำ ที่สร้างผลิตผลเพื่อตอบโจทย์บริบทของประชากรโลกได้ถูกต้อง พร้อมกับการบริหารจัดการต้นทุน แต่การที่จะเดินไปสู่จุดนั้นได้ เกษตรกรต้องได้รับการสนับสนุนจากภาพรัฐ เพราะทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว จะมาพร้อมกับการลงทุน
ความท้าทายและโอกาสของเกษตรกรรุ่นใหม่
วราภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรไทยส่วนใหญ่อายุเกิน 50 ปี ที่มีปริมาณมากถึง 55% จากจำนวนเกษตรกรที่ลงทะเบียนกับคูโบต้าที่มีประมาณ 2-3 หมื่นราย ในขณะที่เกษตรกรทั่ประเทศมีกว่า 8-10 ล้านคน สยามคูโบต้าจึงมุ่งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้หันมาทำเกษตรกรรม ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการสนับสนุนด้านองค์ความรู้
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในภาคการเกษตร สยามคูโบต้ากำลังพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มรายได้ถึง 30% และเพิ่มผลผลิตได้ถึง 20 เท่า พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายลดโลกร้อนด้วย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions
