เดลต้า นำเทคโนโลยีนวัตกรรม เพื่ออากาศสะอาดและสุขภาพที่ดีขึ้น จัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมช่วยลดมลพิษจากการคมนาคม ผ่านโครงข่ายสถานีชาร์จ EV ที่ส่งมอบแล้วกว่า 1.5 ล้านเครื่อง
มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่ระดับฝุ่น PM2.5 มักพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน สร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
- การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี
เคอร์ติส คู ผู้อำนวยการธุรกิจประจำประเทศไทยของเดลต้า บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดลต้าสามารถพัฒนาโซลูชันที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศทั้งในอาคารและพื้นที่ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ประกอบด้วย :
1. ระบบแลกเปลี่ยนอากาศ (ERV) และ ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ (FAS) เทคโนโลยี ERV ช่วยรักษาสมดุลของอุณหภูมิและความชื้นในอาคาร พร้อมทั้งช่วยประหยัดพลังงาน ระบบ FAS ช่วยหมุนเวียนอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวอาคารได้อย่างต่อเนื่อง สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้สูงถึง 97% ผ่านแผ่นกรอง HEPA

2. พัดลมระบายอากาศพลังงานสูง ใช้มอเตอร์ DC Brushless ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 70% ทำงานเงียบเป็นพิเศษ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในอาคาร
3. เครื่องตรวจสอบคุณภาพอากาศ UNOnext ติดตามและวิเคราะห์คุณภาพอากาศภายในอาคารแบบเรียลไทม์ ตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5, ระดับคาร์บอนไดออกไซด์, อุณหภูมิ และความชื้น สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับระบบ ERV และ FAS เพื่อการปรับปรุงคุณภาพอากาศที่แม่นยำ
- สนับสนุนคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
https://www.deltathailand.com/th/นอกจากการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร เดลต้ายังให้ความสำคัญกับ การลดมลพิษจากการคมนาคม ผ่านการขยายโครงข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตั้งแต่ปี 2553 เดลต้าได้จัดส่งสถานีชาร์จ EV กว่า 1.5 ล้านเครื่องทั่วโลก สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขนส่งที่ปล่อยมลพิษต่ำและช่วยลดฝุ่น PM2.5 จากไอเสียรถยนต์

เดลต้าให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศและลดปัญหามลพิษในระยะยาว บริษัทมุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับทุกคนในสังคม
- ความอันตรายของฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพ
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด และโรคหัวใจ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่ามลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึง 7 ล้านคนต่อปี และประชากรโลก 92% อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศต่ำกว่ามาตรฐาน WHO
สำหรับกรุงเทพฯ รายงานจากศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครระบุว่า ระดับฝุ่น PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่อาจสูงถึง 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว