ไทยยูเนี่ยน สร้างบ้านปะการัง ฟื้นฟูท้องทะเลภูเก็ตต่อเนื่อง

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 37 Second

ไทยยูเนี่ยน ผนึกเอสซีจี ผลักดันนวัตกรรม SCG 3D Printing ขับเคลื่อนโครงการรักษ์ทะเล สร้างบ้านปะการัง ภูเก็ต ปีที่ 2 ฟื้นฟูท้องทะเลอย่างยั่งยืน ตอกย้ำกลยุทธ์ SeaChange® 2030

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ร่วมมือกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด มูลนิธิเอิร์ธ อะเจนด้า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขับเคลื่อนโครงการรักษ์ทะเล ในพื้นที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ร่วมกันทั้งหมด 109 ชิ้น พร้อมติดตามความคืบหน้าผลงานการติดตั้งบ้านปะการังปีแรกจากนวัตกรรม SCG 3D Printing พบว่ามีตัวอ่อนปะการังและปลาเข้าไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับแนวทางการดูแลท้องทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อโลก เพื่อเรา ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ปีนี้ไทยยูเนี่ยนลงสำรวจความคืบหน้าร่วมกับทางมูลนิธิเอิร์ธอะเจนด้าด้วยตัวเอง โครงการนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ของไทยยูเนี่ยน หนึ่งในพันธกิจสำคัญคือการฟื้นฟูระบบนิเวศทั้งทางทะเลและทางบก เพื่อตอบโจทย์เรื่องการดูแลสุขภาพผู้คนและสุขภาพท้องทะเล หรือ Healthy Living, Health Oceans ซึ่งไทยยูเนี่ยน ได้ให้การสนับสนุนโครงการรักษ์ทะเลผ่านโครงการบ้านปะการัง ณ เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะวางบ้านปะการังรวมทั้งสิ้น 210 ชิ้น

ไทยยูเนี่ยนมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความตระหนักรู้ และลงมือทำเพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ด้วยความร่วมมือในการปกป้องทรัพยากรทางทะเลอันมีค่าอย่างต่อเนื่อง ไทยยูเนี่ยนยังมีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอีกมากที่ทำต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่าโกงกาง การกำจัดขยะทะเล การเก็บขยะชายหาดที่ทำต่อเนื่องทั้งปี เป็นต้น เพื่อคืนความสมดุลให้กับระบบนิเวศทางทะเล และอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า จากโครงการปีแรก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพบว่าในพื้นที่ที่วางบ้านปะการังที่เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เริ่มมีตัวอ่อนปะการังมาเกาะมากกว่า 5% และมีปลามาอยู่อาศัยเป็นบ้านแห่งใหม่ นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างความอุดมสมบูรณ์คืนให้ท้องทะเล

โครงการรักษ์ทะเล ที่ภาคเอกชนอย่างไทยยูเนี่ยน และ SCG จับมือกันร่วมกับพันธมิตรสร้างบ้านปะการัง นับว่ามีประโยชน์ต่อท้องทะเลไทยมาก เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสมดุลทางท้องทะเลที่กำลังลดลง อันเป็นผลมาจากการเลปี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก

ชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า ปีนี้ SCG ได้เริ่มนำนวัตกรรม SCG 3D Printing รุ่นใหม่ ที่เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปด้วยปูนมอร์ตาร์ ที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาผลิตเป็นวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ พัฒนาให้เหมาะกับสายพันธุ์ปะการังและสภาพแวดล้อมในท้องทะเลนั้นๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงเกาะและการเจริญเติบโตของตัวอ่อนปะการัง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

นอกจากความตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานอนุรักษ์แล้ว SCG ยังพร้อมเป็นสื่อกลางให้ภาคเอกชนและประชาชนที่มีความสนใจ เข้าถึงและมีส่วนร่วมในงานฟื้นฟูแนวปะการัง

รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ประธานมูลนิธิ เอิร์ธ อะเจนด้า กล่าวว่า ปะการังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่มีความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งพบในมหาสมุทรมากถึง 25% แต่ปัจจุบันกำลังเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์ การฟื้นฟูแนวปะการังจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล จากการได้ลงสำรวจพื้นที่วางบ้านปะการังร่วมกับไทยยูเนี่ยน และทช. พบว่า ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยพบการเติบโตของปะการังอย่างมีนัยสำคัญ และมีสัตว์เกาะติดราว 11 ประเภทรวมทั้งตัวอ่อนปะการังเข้ามาเกาะในบ้านปะการังนับเป็นการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ปกป้องระบบนิเวศ รักษาความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทร และความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

กรุงศรี เดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว เครือรพ.บางปะกอก-ปิยะเวท

กรุงศรี สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 3,600 ล้านบาท เครือโรงพยาบาลบางปะกอก-ปิยะเวท โครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลปิยะเวท 2 พรานนก มุ่งสู่เป้าหมายการได้รับมาตรฐานรับรองอาคารสีเขียวระดับสากล LEED ระดับ Gold

You May Like