อาลัย “ตั้ว -ศรัณยู”

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:6 Minute, 33 Second


ในพิธีรดน้ำศพ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงและผู้กำกับ ที่จากไปอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งตับ ที่ วัดนาคปรกศาลาเศรษฐี ที่มีทั้งครอบครัว ญาติสนิท เพื่อนๆ ในและนอกวงการ มาร่วมพิธีและฟังสวดพระอภิธรรมศพคืนแรก

เวลา 17.30 น. เปิ้ล – หัทยา ภรรยา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

เปิ้ล – ก่อนอื่นเปิ้ลอยากขอโทษทุกคนนะคะที่อาจจะไม่ได้อธิบายอะไรเลยในช่วงที่ผ่านมา เพราะตัวพี่ตั้วเองก็คิดว่าเขาอยากที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองก่อน คือเขามองว่ามันเป็นแค่เรื่องสุขภาพก็เลยไม่ได้เปิดเผยหรือไม่ได้บอกใคร

หลายๆ คนก็น่าจะทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้พี่ตั้วเคยมีอาการเจ็บหลัง และพอได้ทำการตรวจ ก็พบว่ามีกระดูกข้อที่ 3 บริเวณกระดูกสันหลังยุบลงไป คุณหมอก็เลยทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อดูว่ากระดูกที่ยุบลงมานั้นมันมีสาเหตุมาจากอะไร

ตอนแรกก็เกือบจะทำการผ่าตัดแล้วนะคะ แต่พอคุณหมอลองพิจารณาดูอย่างละเอียด เขาก็รู้สึกว่ากระดูกบริเวณอื่นยังแข็งแรงดีอยู่ ดังนั้นมันเลยทำให้เขาสงสัยว่า เอ๊ะ สาเหตุมันเกิดจากอะไร และที่สำคัญมันมีอาการของลิ่มเลือดด้วย 

สุดท้ายเขาก็เลยแนะนำว่า ให้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดดีกว่า เพื่อที่จะได้รู้ว่าลิ่มเลือดมาจากไหน

ปรากฎว่าหลังจากนั้นคุณหมอก็เรียกเราไปคุย และก็บอกข้อมูลกับเราว่า ค่าตับของพี่ตั้วสูงมาก เราเคยทราบมาก่อนหรือเปล่าว่า ตับพี่ตั้วมีปัญหา ตอนนั้นเราก็บอกไปตามตรงค่ะว่าเราทราบ เพราะพี่ตั้วเขาเป็นไวรัสตักอักเสบบีมานานแล้ว เป็นตั้งแต่ก่อนที่เราจะแต่งงานซะอีก แต่ที่ผ่านมาเขาสามารถดูแลตัวเองได้ และเขาดูแลตัวเองมาตลอด 

เขาเช็กร่างกายตลอด แต่อาจจะมีแค่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เขาไม่ได้เช็กร่างกาย ซึ่งมันก็กลายเป็นว่าไอ้สิ่งที่อยู่ในตับของเขามันโตขึ้น จนกระทั่งมันทำให้ไวรัสตับอักเสบบีกลายพันธุ์และเป็นมะเร็งในที่สุด

คือเรารับรู้กันมาตั้งแต่แรกนะคะ แต่ด้วยความที่พี่ตั้วเนอะ เขาก็รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงทั้งๆ ที่เขาดูแลสุขภาพอย่างดีมาโดยตลอด ตรวจเช็กร่างกายสม่ำเสมอ แต่สุดท้ายแล้วเชื้อมันก็ลามมาที่กระดูก จากกระดูกข้อที่ 3 ก็ลุกลามขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงสะบัก ซึ่งเขาก็รักษาตัวมาเรื่อยๆ ค่ะ

ตอนที่ไปโรงพยาบาล ไปตรวจกระดูก คุณหมอบอกว่าน่าจะอยู่ในระยะที่ 3 ค่ะ และน่าจะยังรักษาได้ คือคุณหมอก็จะพยายามให้ยาตัวที่สามารถดูแลตับ รวมถึงฉีดยาอีก 6 เข็ม ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ เพราะพี่ตั้วสามารถออกไปทำงานได้อีกครั้ง ออกไปกำกับละครที่เขาทำค้างอยู่ และก็เริ่มเปิดละครเรื่องใหม่ด้วย 

จนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกปวดบริเวณสะบักและเอว ก็เลยทำให้ต้องกลับไปหาคุณหมออีกครั้ง ซึ่งในครั้งนั้น คุณหมอก็ลงความเห็นว่าควรจะต้องพัก เนื่องจากกระดูกของเขาทรุดเพิ่ม เราจึงเข้าสู่กระบวนการฉายแสง แต่ด้วยความที่ตับมันอยู่ใกล้กับท้องอยู่ใกล้กับกระเพาะ เลยทำให้เวลาพี่ตั้วทานอาหาร เขารู้สึกพะอืดพะอม ไม่ค่อยอยากทานอาหารสักเท่าไหร่ ประกอบกับเขามีภาวะแคลเซียมสูง ดังนั้นเมื่อแคลเซียมสูงมันก็จึงไปทำลายระบบความคิด ระบบการพักผ่อนและทำให้เขาเริ่มไม่อยากนอนค่ะ

ตอนที่เขาเข้าไปรักษาตัวครั้งแรกเมื่อช่วงประมาณเดือนตุลาคมอย่างที่ทราบข่าว ตอนนั้นเขายังแค่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลีย เดินได้ช้าๆ แต่พอเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เขาเริ่มแข็งแรงขึ้น เริ่มกลับมาออกกองได้ เขาไปออกกองอยู่หลายครั้งเหมือนกัน 

แต่สุดท้ายอาการของเขาก็เริ่มทรุด เริ่มเจ็บสะบัก เจ็บเอว บวกกับมันเป็นจังหวะที่ทุกคนต้องเจอกับ โควิด-19 พอดี เราก็เลยไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร และก็อยากให้ทุกคนหันไปโฟกัสดูแลตัวเองกันดีกว่า ขนาดเพื่อนฝูงที่เจอกัน เราก็ไม่ได้บอก ถึงแม้จะมีคนทักว่าทำไมพี่ตั้วดูผอมลง แต่พี่ตั้วก็ไม่ได้พูดหรือเล่าเรื่องนี้กับใคร เพราะเขามองว่าทุกคนต่างก็เจอภาวะความเครียดกันอยู่แล้ว ดังนั้นพอมันเป็นเรื่องสุขภาพของเขา เขาก็แค่อยากดูแลตัวเองดีกว่า

เราเพิ่งเข้าไปโรงพยาบาลกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเองค่ะ

หลังจากทำการเอ็กซ์เรย์ปอด คุณหมอก็อธิบายว่า จากเชื้อที่เคยมีอยู่ที่ปอดนิดเดียว ตอนนี้มันเยอะขึ้น แถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและก็เรื่องของแคลเซียมอีก

มันก็เร็วนะคะ เร็ว ตอนแรกเราคิดว่าการไปโรงพยาบาลครั้งนี้น่าจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนยา ไม่ได้คิดเลยว่า… ไม่ได้คิดเลย (น้ำตาคลอ)

พี่ตั้วจะพูดช้าลง เนื่องจากว่าเขามีภาวะแคลเซียมสูง จึงทำให้ระบบความคิดของเขาช้าลงตามไปด้วย แต่ก็ยังพูดได้อยู่ตอนเจอคุณหมอเขายังพูดกับคุณหมอเลยว่า อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม จนกระทั่งคุณหมอเริ่มมาบอกกับเปิ้ลว่า พี่ตั้วเขาอยากเจอใครเป็นพิเศษไหม ตอนนั้นเปิ้ลก็รู้สึกเอะใจนะคะว่าทำไมคุณหมอถามแบบนี้ คือไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่สุดท้ายก็เลยไปเชิญพี่ชายพี่ตั้วมาเจอหน้าเขา

“เอก – ธเนศ วรากุลนุเคราะห์” พี่ชายตั้ว -ศรัณยู

เอก – ในช่วงสุดท้ายตอนที่ตั้วจะไป สำหรับผมผมมองว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีนะ คือตั้วเขานอนนิ่งๆ เหมือนเขาหลับไปเฉยๆ ตอนนั้นเราก็บอกเขาว่าหลับไปก็ได้นะตั้ว ถ้ามันเหนื่อยก็หลับไปไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็เหมือนตื่น ไปตื่นที่ไหนก็ไม่รู้ ตื่นเมื่อไหร่ก็ช่างมัน แต่ตอนนี้ให้เขาสบายใจได้แล้ว ลูกเมียอยู่กับเขา ญาติพี่น้องอยู่กับเขา เพื่อนฝูงมาอยู่กับเขาหมดแล้ว ทุกคนมาส่งเขาแล้ว ให้เขาคิดว่าเขาไปเที่ยว ให้คิดซะว่าตัวเองกำลังจะขึ้นเครื่องบิน แล้วทุกคนมาส่งเขาที่สนามบิน เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีกไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง จนสุดท้ายตัวเขาก็ค่อยๆ ไปครับ

คุณหมอบอกว่าที่ผ่านมาตั้วเขาพยายามสู้ เพราะเหมือนชีพจรเขาคงที่มาตลอด จนกระทั่งทุกคนเดินทางมาถึงครบถ้วนทุกคนที่เขาปรารถนาจะเจอได้เดินทางมาถึง สักประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ชีพจรเขาก็ค่อยๆ ลง ค่อยๆลงไปเรื่อยๆ ไม่มีอาการที่แบบว่าลงแล้วขึ้นหรืออะไรเลย ไม่มีภาวะยื้อใดๆ เลยทั้งสิ้น เขาไปแบบสบายๆ คือสงบจนผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาพาพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสงบตามไปด้วยเลยครับ

โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้ชายมากที่สุด

  • มะเร็งตับ
  • มะเร็งปอด
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำใส้ตรง
  • มะเร็งในช่องปาก

◊ โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงมากที่สุด 

◊ มะเร็งชนิดไหนร้ายแรงที่สุด ? 

โรคมะเร็งแต่ละชนิดมีลำดับอาหารที่ร้ายแรงพอๆ กัน ซึ่งหากตรวจพบในตอนที่มะเร็งลุกลามจนถึงขั้นที่ 4 ก็ทำให้การรักษาเป็นได้ยาก โดยมะเร็งตับถือเป็นโรคร้ายที่มีโอกาสรักษาหายได้น้อยมาก รวมถึงการรักษาให้หายขาดก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน ทั้งนั้นทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับกำลังใจของผู้ป่วย และการเอาใจใส่ดูแลจากคนรอบข้าง เพราะหากมีกำลังใจดีก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เช่นกัน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

เครือซีพีแจกฟรีหน้ากากอนามัยกลุ่มผู้เปราะบาง

หน้ากากอนามัยซีพี เดินหน้าสู่เฟสแจกฟรีพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง ประเดิมมอบสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และมูลนิธิออทิสติกไทย เพื่อใช้ป้องกันโรคโควิด – 19