เตรียมพบ รีสอร์ตหรูเชิงนิเวศ แห่งใหม่ “อาซูลิก อัลอูลา”

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:4 Minute, 5 Second

RCU ประกาศสร้าง รีสอร์ตหรูเชิงนิเวศ ท่ามกลางธรรมชาติ “อาซูลิก อัลอูลา” เมืองอัลอูลา ซาอุดีอาระเบีย อลังการด้วยวิลล่า 76 หลัง ภายใต้แผนแม่บท “การเดินทางข้ามกาลเวลา” พร้อมสร้างกว่า 300 ตำแหน่ง

จอห์น นอร์เทน (John Northen) รองประธานฝ่ายโรงแรมและรีสอร์ตประจำ ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) เปิดเผยว่า RCU ประกาศสร้างรีสอร์ตแห่งใหม่ภายใต้แผนแม่บท “การเดินทางข้ามกาลเวลา” (Journey Through Time หรือ JTT) โดยการออกแบบที่สร้างให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ รวมทั้งสอดคล้องกับกฎบัตรความยั่งยืนแห่งเมืองอัลอูลา (AlUla Sustainability Charter) โครงการซาอุดีอาระเบียสีเขียว (Saudi Green Initiative) และวิสัยทัศน์ปี 2573 (Vision 2030)

อาซูลิก อัลอูลา (AZULIK AlUla) เป็นรีสอร์ตหรูเชิงนิเวศที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเขตนาบาเทียน ฮอไรซอน (Nabatean Horizon) ซาอุดิอาระเบีย โดยซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาใกล้กับหมู่บ้านอัลมูตาดิล อีเควสเทรียน (AlMutadil Equestrian Village) และหุบเขาโบราณ วาดิ อัลฟานน์ (Wadi AlFann) ซึ่งกำลังจะเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้

รีสอร์ต อาซูลิก อัลอูลา จะประกอบด้วยวิลล่าหรู 76 หลัง พร้อมเปิดตัวภายในปี 2570 ออกแบบโดยสอดคล้องกับกฎบัตรความยั่งยืนแห่งเมืองอัลอูลา เชื่อมโยงแขกผู้เข้าพักกับมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติรายรอโครงการนี้จะสร้างประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างงานใหม่มากกว่า 300 ตำแหน่ง มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2570

วิลล่าหรู 6 แบบที่แตกต่างกัน รวมทั้งสิ้น 76 หลัง นอกจากนั้น ยังมีสปา คลับวีไอพี เลานจ์ต้อนรับ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ SFER IK โดยสถาปัตยกรรมภายนอกตกแต่งแบบลูกคลื่นด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติและเส้นใยที่ถักทอหลายชั้น ตามแนวคิดการออกแบบที่ลื่นไหลซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากระบบนิเวศทางธรรมชาติและหน้าผาหินทรายโดยรอบ

รีสอร์ต อาซูลิก อัลอูลา จะเชื่อมโยงกับมรดกแห่งเมืองอัลอูลา รวมถึงระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น การก่อสร้างรีสอร์ตจะช่วยอนุรักษ์และนำศิลปะบนหินโบราณที่อยู่ใกล้เคียงมาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ตลอดจนนำระบบทางน้ำตามธรรมชาติมาใช้ในการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ โครงการจะไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้ามาในบริเวณที่พัก แต่จะมีระบบยานพาหนะไฟฟ้าเต็มรูปแบบคอยให้บริการ รวมถึงจัดเส้นทางสำหรับม้าและอูฐและเส้นทางเดินป่า เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างเต็มที่

โครงการนี้ดำเนินการโดยอาซูลิก (AZULIK) แบรนด์หรูสัญชาติเม็กซิกัน และออกแบบโดยรอธ อาร์คิเทกเชอร์ (Roth Architecture) เพื่อให้บริการที่พักหรูหราสำหรับแขกผู้มาเยือน ตลอดจนสร้างประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ชุมชนอัลอูลา เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว รีสอร์ตแห่งนี้จะสร้างงานใหม่มากกว่า 300 ตำแหน่ง ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะใช้วัสดุส่วนใหญ่และผู้รับเหมาในท้องถิ่น เช่นเดียวกับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่จะจัดหามาจากในเมืองอัลอูลาและพื้นที่อื่น ๆ ในซาอุดีอาระเบีย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป

รองประธานฝ่ายโรงแรมและรีสอร์ตประจำราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า อาซูลิก อัลอูลา ยึดมั่นในแนวคิดความยั่งยืนและการเชื่อมโยงกับมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่รายล้อมพื้นที่ที่สวยงามแห่งนี้ นอกจากจะตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอัลมูตาดิล อีเควสเทรียน และหุบเขาโบราณ วาดิ อัลฟานน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาทั้งสองแห่งแล้ว รีสอร์ตแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของเมืองอัลอูลา ในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำตามแผนแม่บทการเดินทางข้ามกาลเวลาของเราอีกด้วย

รอธ (Roth) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอาซูลิก กล่าวว่า อาซูลิกได้นำวิสัยทัศน์ของอาซูลิกมาสู่เมืองอัลอูลา นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เริ่มออกเดินทางสู่มรดกและวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของอัลอูลา โครงการนี้มีรากฐานมาจากภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่มีคุณค่าทางจิตใจและมีคุณค่าต่อแบรนด์ของเรา นี่คือก้าวแรกและมั่นใจว่าจะได้เดินบนเส้นทางที่สวยงามและน่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน

ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula

สำหรับ ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

กลุ่มเซ็นทรัล “Love the Earth”ลดมลพิษจากพลาสติกเพื่อสิ่งแวดล้อม

กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ ร่วมกับ UNEP ชวนเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แคมเปญ “Love the Earth”

You May Like