BPP เร่งขยายโอกาสธุรกิจในสหรัฐฯ รับดีมานด์พลังงานพุ่ง เผยเท็กซัสความต้องการไฟฟ้าเติบโตเฉลี่ย 15-17% พร้อมเตรียมคว้ารายได้เพิ่มจากคาร์บอนเครดิตในจีน
อิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมความพร้อมโรงไฟฟ้า Temple I และ Temple II ในรัฐเท็กซัส รับกระแสการใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 15-17% ต่อปี ภายในปี 2573 โดยเท็กซัสถือเป็นรัฐที่มีการเติบโตของ Data Centers ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ BPP ยังดำเนินมาตรการบริหารความเสี่ยงด้านราคาไฟฟ้า ผ่านเครื่องมือทางการเงิน (Hedging Risk Management) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าได้อีก 40% ในปี 2568

สร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิตในจีน
นอกจากนี้ BPP ยังเดินหน้าลดการปล่อยคาร์บอนผ่านการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าในจีน ที่สามารถลดการปล่อย CO2 ได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon Emission Allowances: CEAs) กว่า 90 ล้านบาท นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่มีศักยภาพ
BPP เร่งขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Renewables+) โดยลงทุนในโครงการแบตเตอรี่ฟาร์มขนาดใหญ่ (BESS) ในญี่ปุ่น รวมถึงขยายธุรกิจซื้อขายพลังงาน (Energy Trading) ในตลาดต่างประเทศ โดยล่าสุดจับมือกับโซลาร์บีเคในเวียดนาม เพื่อพัฒนาโซลาร์รูฟท็อปสำหรับภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้ากำลังผลิตเฟสแรก 390 เมกะวัตต์
กลยุทธ์เติบโตสู่อนาคต – ลดสัดส่วนถ่านหิน มุ่งสู่พลังงานสะอาด
BPP ยังคงเดินหน้าสร้างสมดุลในพอร์ตพลังงาน โดยตั้งเป้าลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินจาก 70% เหลือ 30% ภายใน 5 ปี พร้อมเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและพลังงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวเข้ากับเทรนด์พลังงานโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ด้วยแผนการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด BPP มุ่งมั่นเป็นผู้นำในการผลิตพลังงานที่ยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและมีส่วนร่วมในการลดคาร์บอนระดับโลกลงทุนที่วางไว้จนถึงปี 2573 ที่ราว 1 – 1.5 พันล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ 60% สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าแก๊ส และ 40% สำหรับลงทุนในกลุ่ม Renewable+ พร้อมตั้งเป้ากำไรของบริษัทมากกว่า 65% จะต้องมาจากกลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้พึ่งพาฟอสซิล ภายใต้ความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมความสำเร็จในการวางโครงสร้างเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2567 บ้านปู เพาเวอร์ มีรายได้รวม 25,827 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญความท้าทายในตลาดพลังงานโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่แนวโน้มราคาซื้อขายไฟล่วงหน้าเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัวในปี 2568 สอดรับกับการเติบโตของ Data Centers ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นความต้องการใช้ไฟฟ้า