BRANDi ฉายภาพทิศทางโลกปีงูเล็ก ปัญหาตึงๆ 4 มิติ Panic Fragmentation Stagnation และ Degradation เผยต้องเดินหน้า 3 แนวทางรับมือ ค้นหาจุดแข็ง – เผชิญหน้ากับความท้าทาย – ใช้สิ่งที่เรามีอยู่ให้เป็น แนะคนไทยปรับทั้งระบบ เพื่อสร้างองค์กรยั้งยืน
ปิยะชาติ (อาร์ม) อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด กล่าวว่า Global Headlines หรือปัญหาระดับโลกที่ทุกภาคส่วนควรตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือ มีประเด็น 4ต ที่ต้องตระหนักและเร่งรับมือ เริ่มตั้งแต่
1. ตื่นตูม (Panic): จากการเปลี่ยนแปลงของการเมืองโลกระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึง ทรัมป์ 2.0 และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในภาพใหญ่ของทั้งโลก
2. แตกแยก (Fragmentation): จากความขัดแย้งระหว่างประเทศมากที่สุด ที่นำไปสู่สงครามซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 79 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489
3. ตีบตัน (Stagnation): จากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในทุกภาคอุตสาหกรรมรื่องที่คุยมากที่สุดใน World Economic Forum Annual Meeting 2025 ที่ Davos
4. ตกต่ำ (Degradation): ของสิ่งแวดล้อมของโลกจากการกระทำของมนุษย์ ที่อาจนำไปสู่การเพิ่มของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอีก 1.8 องศาเซลเซียส

ปัญหาทั้ง 4ต มีวิธีการที่สามารถรับมือได้ โดยการสร้างอนาคตไปถึงระดับแก่นองค์กร หรือ Core-level ผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่ 1. Discover the Core: ค้นหาจุดแข็ง การช่วยองค์กร หน่วยงานและประเทศหา Core Competency ของตัวเอง 2. Empower the Core: เผชิญหน้ากับความท้าทาย และความเสี่ยง และ 3. Grow from the Core: การใช้สิ่งที่เรามีอยู่ให้เป็น Competitive Advantage
เมื่อตระหนักถึงปัญหา และมีวิธีการรับมือแล้ว สิ่งที่ขาดไปไม่ได้คือการลงมือทำให้เกิดกาเปลี่ยนแปลง ปิยะชาติ กล่าวถึง 7 การเปลี่ยนผ่านที่ทุกภาคส่วนต้องคำนึง สร้างความเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่ให้ไปถึงในระดับ Global ผ่าน BRANDi Global Outward 2025 (7 Transitions)

1. Geopolitics Transition
Tri-Globalization (US/China/EU) – การพาตัวเองและ Position ในจุดที่เหมาะสมของบริบทภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อปกป้องและหาโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืน
2. Economic Transition
High Value Chain Driven – ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการค้า เพื่อ Secure Supply Chain ทั้งหมด ทำให้เกิดการผลิตที่ต้นทุนถูกแต่คุณภาพดี
3. Societal Transition
All Gens Earner – เมื่อทักษะการทำงานของคนไม่ตรงกับความต้องการของตลาด อาจทำให้ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น เพราะต้องแบกรับกับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นประเทศต้องการ New Economic Model ที่ช่วยให้เด็กและผู้สูงอายุได้เรียนรู้ทักษะใหม่และสร้างรายได้

4. Technological Transition
Opportunity Perspective – การ Empower คุณค่าของมนุษย์เพื่อนำ AI ไปใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
5. Environmental Transition
Planet Positive Action – Ensure ว่ามีกลไกการตลาดที่เน้นเรื่องการกระทำที่เป็นมิตรต่อโลก เน้นการใช้พลังงานสะอาด ในกระบวนการต่าง ๆ ของธุรกิจ
6. Human Capital Transition
Co-pilot Capacity – ควรส่งเสริมการสร้างความรวมมือระหว่างมนุษย์และ AI (Collaborativeness) เพื่อสร้างเป้าหมายร่วมกัน (Common Goals)
7. New World Order Transition
Harmonious Public-Private Partners – การทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อที่จะนำจุดแข็งของทุกภาคส่วนมาต่อยอดและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
ปิยะชาติ ยังได้ตั้งคำถามสำคัญว่า “เราเก่งอะไร และควรเดินไปในทิศทางใดเพื่อสร้างความยั่งยืนบนเวทีโลก” โดยต้องคำนึงถึงสมดุลของ คน (People), โลก (Planet) และ ผลกำไร (Profit) เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด ยังร่วมกับ BRANDi Institute of Systematic Transformation (BiOST) จัดงาน FUTURE-READY 2025 ภายใต้ธีม Ready for the Unknown Horizon เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยการประชุมประจำปีครั้งที่ 2 นี้ ได้รวบรวมผู้นำระดับสูงจากทุกภาคส่วนมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางการรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน ภายในงานประกอบด้วยการบรรยาย พร้อมทั้งเวทีเสวนาที่เปิดโอกาสให้ผู้นำองค์กรระดับประเทศ และที่ปรึกษาด้าน Intelligence Management ของแบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ การก้าวเข้าสู่ Unknown Horizon เป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในโลกธุรกิจ แนวคิดดังกล่าวถูกออกแบบให้ครอบคลุม 3 มิติหลัก ซึ่งเปรียบเสมือน 3 ระดับของการปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืน ได้แก่

1. Macro-level: การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองแบบไร้พรมแดน ผ่านการบรรยายหัวข้อ FUTURE-READY Economy โดย ปิยะชาติ (อาร์ม) อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด และตามมาด้วยการเสวนาในหัวข้อ New Global Horizon: Thriving in an Unknows Horizon ที่ร่วมเสวนาโดย ปรเมธี วิมลศิริ ประธาน Macro-Socioeconomic Agenda
มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลินิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารในพระสังฆราชูปถัมภ์ และนายกสภามหาวิทยาลัย CMKL จิรวุฒิ กนกอรรจน์ (Discussion Catalyst) ผู้อำนวยการ Geoeconomics Agenda, BRANDi Institute of Systematic Transformation (BiOST)
2. Market-level: การสร้างสมดุลระหว่างผู้คน กำไร และตลาดที่ยั่งยืน ผ่านการบรรยายในหัวข้อ FUtURE-READY Ecosystem โดยศศรินทร์ บวรโชคชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ปรึกษา บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด และเสวนาในหัวข้อ Redefining Rule of Competition โดย
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ผู้อำนวยการ Climate Economy Agenda BRANDi Institute of Systematic Transformation (BiOST) ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
มนต์ชัย วงษ์กิตติไกรวัล (Discussion Catalyst) ที่ปรึกษาอาวุโส ส่วนงานบริหารด้านการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด

3. Micro-level: การปรับตัวขององค์กรและบุคคลในระดับจุลภาค ที่บรรยายในหัวข้อ FUTURE-READY Engine โดยคุณสินธ์โต วาณิชย์กิตติ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้าน New Business Management บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด และผู้อำนวยการ Future-ready SME Agenda BRANDi Institute of Systematic Transformation (BiOST) และการเสวนาในหัวข้อ From Conventional to FUTURE-READY โดย จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเบส-เทคโนโลยี กรุ๊ป ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ คุณสินธ์โต วาณิชย์กิตติ์ (Discussion Catalyst)