FPT ผ่านการรับรองการตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกระยะสั้น SBTi

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 19 Second

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon 2050 ประเดิมผ่านการรับรองการตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกระยะสั้นจาก SBTi เป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกของไทย

ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” กล่าวว่า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยิ้มรับการการันตีจาก SBTi กับการเป็นบริษัทรายแรกของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ผ่านการรับรองการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกระยะสั้นทั้ง 3 Scope ตอกย้ำการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง ด้วยเป้าหมายก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ปลอดก๊าซเรือนกระจกในพ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) พร้อมเป็นบริษัทที่ร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว

FPT เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่ได้รับการตรวจสอบและผ่านการรับรองการตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกระยะสั้น จากโครงการริเริ่มเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi) FPT มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) และทางอ้อม (Scope 2) จากการใช้พลังงาน รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม ที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่า (Scope 3) ให้ได้ 42% ภายในพ.ศ.2573 (ค.ศ.2030) เทียบจากปีฐานหรือพ.ศ.2564 เพื่อควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศา

หนึ่งในเป้าหมายด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ครอบคลุม Scope 1-3 ภายในพ.ศ.2593 หรือเป็นองค์กรที่ปลอดก๊าซเรือนกระจก (Net Zero Carbon)การได้รับการรองจาก SBTi นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นที่สะท้อนถึงการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบในการร่วมจัดการผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทหวังว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสามารถเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรอื่น ๆ ได้

เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้ยกระดับแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในหลากหลายมิติ เช่น

  • เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในทุกกลุ่มธุรกิจ ครอบคลุมทั้งที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยมีเป้าหมายติดตั้งโซลาร์เซลล์รวม 41MW ภายใน พ.ศ.2573
  • ทุกโครงการใหม่ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า อาทิ โรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน จะต้องออกแบบและพัฒนาตามมาตรฐานอาคารเขียว เช่น LEED, TREES, EDGE เป็นต้น
  • อัพเกรดอาคารเดิมให้สอดรับกับมาตรฐานอาคารเขียวเช่นกัน โดยมีเป้าหมายว่า 85% ของสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท จะต้องได้รับการรับรอง หรืออยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานอาคารเขียวภายในพ.ศ.2573
  • สรรหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) ที่ควบคุมและติดตามการใช้พลังงานให้เหมาะสม และระบบ Motion Sensor ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหว ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า รวมถึงการเลือกใช้หลอดไฟ LED และอุปกรณ์ประหยัดน้ำเป็นมาตรฐานในทุกโครงการ
  • เพิ่มสัดส่วนการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการก่อสร้าง เช่น คอนกรีตที่มีส่วนผสมจากวัสดุทดแทน เหล็กที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล และการใช้สีที่มีสารระเหยต่ำ (Low VOCs) เป็นต้น
  • ส่งเสริมการคัดแยกขยะทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่และพื้นที่โครงการต่าง ๆ ของธุรกิจ เพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมที่ปลูกจิตสำนึกด้านการดูแลรักษาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน

สำหรับ SBTi ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างโครงการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอน (Carbon Disclosure Project) กรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (Worldwide Fund for Nature) โดยมีเป้าหมายสนับสนุนองค์กรธุรกิจทั่วโลกได้ร่วมแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการตั้งเป้าหมายและดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อิงกับหลักวิทยาศาสตร์

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

แนวทางธุรกิจรับมือ Climate Change เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อโลกอย่างรุนแรง ทุกภาคส่วนต้องปรับตัว โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต้องมุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ “finbiz by ttb” ชวนผู้ประกอบการทำความเข้าใจและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายของ Climate Change และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

You May Like