มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงผนึกพันธมิตร เร่งขับเคลื่อนความหลากหลายทางชีวภาพ

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:2 Minute, 51 Second

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ จับมือ สผ. – สพภ.ผลักดันแผนความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ สู่เป้าหมายสิ่งแวดล้อมโลกที่ยั่งยืน

อนาคตของความหลากหลายทางชีวภาพไทย เริ่มต้นที่ชุมชน: เมื่อการอนุรักษ์ไม่ใช่แค่เรื่องของนักวิชาการ

ในวันที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกส่งผลกระทบถึงทุกระดับของสังคม “ความหลากหลายทางชีวภาพ” กลายเป็นคำสำคัญที่ต้องเร่งปฏิบัติ มากกว่าแค่ถ้อยคำในรายงานหรือเวทีสัมมนา หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เลขาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ
กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยคือความพยายามร่วมกันระหว่างภาครัฐและองค์กรภาคประชาชน เพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการอนุรักษ์ธรรมชาติให้จับต้องได้จริงในระดับพื้นที่

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เลขาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ

ล่าสุด การขับเคลื่อน แผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ (NBSAP) พ.ศ. 2566–2570 กำลังก้าวเข้าสู่การปฏิบัติจริง โดยมีการจับมือระหว่าง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.), สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (สพภ.) และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “ผู้ขับเคลื่อนภาคปฏิบัติ” หรือ Implementation Partner

ทำไม “ความหลากหลายทางชีวภาพ” จึงสำคัญ?

ความหลากหลายทางชีวภาพไม่ใช่แค่จำนวนพันธุ์พืชและสัตว์ที่ยังคงอยู่ แต่เป็นระบบซึ่งหล่อเลี้ยงทั้งทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจฐานราก และความมั่นคงของมนุษย์ในระยะยาว การสูญเสียความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตคือการลดความสามารถของโลกในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การขับเคลื่อน NBSAP ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบายจากส่วนกลาง แต่คือการส่งพลังลงสู่ระดับพื้นที่ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนที่อยู่กับป่า อยู่กับธรรมชาติทุกวัน

“ดอยตุง” ต้นแบบการอนุรักษ์ที่จับต้องได้

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีประสบการณ์ยาวนานเกือบ 40 ปีในการพัฒนา “ดอยตุง” ให้เป็นต้นแบบของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ แนวคิด “ปลูกป่า ปลูกคน” ไม่เพียงสร้างพื้นที่สีเขียว แต่ยังสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความรู้ให้กับคนในพื้นที่

การติดตามข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ดอยตุงอย่างต่อเนื่อง ได้พิสูจน์แล้วว่าวิถีที่ยึดโยงกับชุมชนสามารถฟื้นฟูระบบนิเวศที่เคยเสื่อมโทรมได้อย่างแท้จริง

จากความร่วมมือสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

NBSAP ฉบับใหม่ครอบคลุมการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การขยายพื้นที่อนุรักษ์ การรวบรวมและเชื่อมโยงฐานข้อมูล และการส่งเสริมบทบาทของเยาวชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดผลได้จริงเมื่อมี “คนในพื้นที่” เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ดูแลทรัพยากร

เป้าหมายที่ไปไกลกว่าพรมแดน

ความร่วมมือในครั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายระดับโลกอย่าง กรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพโลก คุนหมิง–มอนทรีออล และเป้าหมาย 30×30 ของประเทศไทย ที่มุ่งหมายให้มีพื้นที่อนุรักษ์อย่างน้อย 30% ของพื้นที่ประเทศภายในปี 2573

การอนุรักษ์ต้องลงมือ ไม่ใช่แค่ตั้งเป้า

การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในวันนี้ ไม่ใช่เพียงการนับจำนวนสัตว์ป่าหรือพืชหายาก แต่คือการสร้างระบบที่ทุกคนมีบทบาท ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรประชาสังคม และที่สำคัญที่สุดคือ “ชุมชนในพื้นที่” ที่รู้จักธรรมชาติรอบตัวดีที่สุด

เพราะสุดท้ายแล้ว การอนุรักษ์ที่ยั่งยืนไม่ใช่แค่การ “รักษา” แต่คือการ “อยู่ร่วม” กับธรรมชาติอย่างเข้าใจและเคารพ

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เตรียมเปิด “ศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาว” ปี 69 เดินหน้า “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เผยผลดำเนินงานปี 2567 ใช้งบกว่า 511 ล้านบาท เดินหน้า “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” พร้อมเปิด “ศาลเจ้าไต้ฮงกงหยกขาว” ภายในปีนี้

You May Like