ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สนับสนุนการสร้างอนาคตทางการเงินอย่างมั่นคง เปิดตัว กองทุน Thai ESGX ช่วยการวางแผนภาษีปี 2568 ตอบโจทย์นักลงทุนที่ใส่ใจเรื่อง ความยั่งยืนและธรรมาภิบาล (ESG) อย่างแท้จริง
ในยุคที่ผู้ลงทุนหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล หรือที่รู้จักในชื่อ “ESG” มากขึ้น การมีกองทุนที่ตอบโจทย์ทั้งด้านผลตอบแทนและความยั่งยืนจึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองหา หนึ่งในตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจในปีนี้คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถลงทุนในธุรกิจที่มีแนวคิดด้าน ESG พร้อมใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
Thai ESGX คืออะไร?
Thai ESGX เป็นกองทุนรวมในกลุ่ม Thai ESG ที่มีเป้าหมายลงทุนในหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai) ที่มีคะแนน ESG ดีเด่น กองทุนนี้ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่ผ่านเกณฑ์ ESG ไม่น้อยกว่า 80% ของพอร์ตเฉลี่ยตลอดปี และลงทุนในหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 65% ของพอร์ต
นอกจากมิติด้านการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบแล้ว Thai ESGX ยังเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2568 ที่ภาครัฐเปิดทางให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดรวมถึง 1.4 ล้านบาทภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

สิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568 ที่เกี่ยวข้องกับ Thai ESGX
ผู้ลงทุนสามารถแบ่งการใช้สิทธิลดหย่อนได้เป็น 3 ส่วนหลัก:
- ลงทุนใหม่ใน Thai ESGX: ใช้สิทธิลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาท (แยกจากสิทธิกองทุน RMF และ Thai ESG เดิม)
- สับเปลี่ยนจาก LTF เดิมเป็น Thai ESGX: ลดหย่อนได้ในปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท และหากมีส่วนเกิน สามารถทยอยลดหย่อนได้ในช่วงปี 2569 – 2572 ปีละไม่เกิน 50,000 บาท รวมแล้วสูงสุด 500,000 บาท
- รวมสิทธิทั้งหมด: หากใช้สิทธิเพื่อการเกษียณควบคู่กัน ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุดได้ถึง 1.4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของกรมสรรพากรอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในกรณีการสับเปลี่ยนจาก LTF เดิม

กองทุนในกลุ่ม Thai ESGX มีให้เลือกตามระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถรับได้ เช่น:
- ES-DIV70THAIESGX
เน้นลงทุนในหุ้น ESG ที่มีศักยภาพในการจ่ายปันผล (70%) และตราสารหนี้คุณภาพดี (30%) เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลางขึ้นไป
ความเสี่ยง: ระดับ 5 จาก 8
- ABALL-TESGX
ลงทุนแบบ All Cap ทั้งหุ้นเติบโตและหุ้นปันผล (70%) ควบคู่กับตราสารหนี้ (30%)
ความเสี่ยง: ระดับ 5 จาก 8
- UEQ-TESGX
ลงทุนในหุ้น ESG เป็นหลักไม่ต่ำกว่า 80% ของพอร์ต เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
ความเสี่ยง: ระดับ 6 จาก 8
แนวโน้มการลงทุนที่เปลี่ยนไป
การเปลี่ยนผ่านจากกองทุน LTF เดิมที่กำลังจะครบกำหนดสู่กองทุนที่ให้ความสำคัญกับ ESG สะท้อนแนวโน้มการลงทุนที่เน้นคุณค่าทางสังคมควบคู่กับผลตอบแทนทางการเงิน ผู้ลงทุนที่ต้องการบริหารความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ควบคู่กับความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อาจมองว่า Thai ESGX เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรพิจารณา
แม้ Thai ESGX จะให้โอกาสในการลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขการถือครอง ระยะเวลาลงทุน และความเสี่ยงของแต่ละกองทุนก่อนตัดสินใจ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน