“ผัดไทยประตูผี” จากเตาร้อนสู่โรงงาน ถนนเส้นใหม่ของ “ทิพย์สมัย” ที่ผัดไทยไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่คือนวัตกรรมอาหารไทยที่เดินหน้าอย่างมั่นคง
“เราไม่เคยก้าวถอยหลัง ทิพย์สมัยคือเต่าที่เดินช้าแต่มั่นคง” คำพูดของ “ดร.ศีขรเชษฐ์ ใบสมุทร, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือทิพย์สมัย กรุ๊ป และบริษัท สยาม รอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ คุณหนุ่ย – เจ้าของร้านผัดไทยทิพย์สมัย” สะท้อนจุดยืนของแบรนด์ร้านอาหารระดับตำนาน ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าร้าน แต่กำลังก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปอย่างจริงจัง

คุณหนุ่ย เข้ามามีบทบาทและเริ่มบริหารธุรกิจเต็มตัวตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งปัจจุบันมีคู่ชีวิตดีกรีแพทย์ รศ.พญ.ธัญนันท์ ใบสมุทร ร่วมนั่งบริหารในตำแหน่ง รองประธานกรรมการ ของบริษัทฯ
ความตั้งใจที่เริ่มจาก “ซอสผัดไทย”
จุดเปลี่ยนเริ่มจากปัญหาเล็ก ๆ อย่าง “รสมือไม่เท่ากัน” ที่กลายเป็นจุดเริ่มของการสร้าง “ซอสผัดไทย” ที่มีโรงงานของตัวเองมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท และใช้เวลากว่า 12 ปีแห่งความล้มเหลวและทดลอง กว่าจะได้ซอสที่ทำให้ใครก็สามารถทำผัดไทยได้ใกล้เคียงต้นตำรับ
“ผมไม่มีความรู้ Food Science ก็ไปจ้างสถาบันต่าง ๆ มาวิจัย เพราะเราไม่หยุดอยู่ที่คำว่า ‘พอใช้ได้’”

จากผัดไทยถ้วย…สู่ “แช่แข็ง” ง่ายแล้วยังง่ายขึ้นอีก
การพัฒนาไม่หยุดที่ซอสเท่านั้น เมื่อพบว่า “การทำผัดไทยยังยากเกินไปสำหรับบางคน” จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ตั้งแต่ผัดไทยถ้วยเข้าไมโครเวฟ ไปจนถึงเวอร์ชันแช่แข็งพร้อมกิน โดยทิพย์สมัยเริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจอาหารรูปแบบอุตสาหกรรมจริงจัง ในปี 2560 จากที่บ่มเพาะคิดค้นและพัฒนามาตั้งแต่วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2552
“Easy to easy — ง่ายแล้วยังง่ายอีก ใครอยากง่ายกว่านั้น…มากินที่ร้านเลย”
ด้วยแนวคิดที่ควบคุมความเสี่ยง ส่งต่องานที่ไม่ถนัดให้กับคนที่ถนัดกว่า ทำให้ทิพย์สมัยไม่ได้ขยายโรงงานเพิ่ม แต่เป็นการจ้างผลิต เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัว ขณะเดียวกัน ก็ใส่ใจและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้แนวคิด Sustainability ด้วยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ถ้วยกระดาษย่อยสลายได้ ช่วยลดพลาสติกและลดขยะโลก

“Street to Sky”: จากถนนสู่ท้องฟ้า
วันนี้ ทิพย์สมัยก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่ด้วยการเสิร์ฟผัดไทยบนสายการบินไทย ภายใต้โครงการ Street to Sky โดยใช้สูตรพิเศษที่เจ้าของร้านยอมรับว่า “เป็นครั้งแรกที่ผัดไทยแช่แข็งมีเส้นไม่ยุ่ย ไม่ขาด และรสชาติเหมือนที่ร้าน”
คุณหนุ่ย เล่าว่า ผัดไทยทิพย์สมัยจะเริ่มเสิร์ฟผู้โดยสารของการบินไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เป็นจำนวน 3 รอบ รอบละ 1 เดือน โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักต้นทุนจะบริจาคเข้ามูลนิธิรามาธิบดีทั้งหมด

เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “THAI” ตอบโจทย์ความหลากหลายของอาหารไทย
นอกจากแบรนด์ Thipsamai ที่เน้นผัดไทย ยังมีการแตกแบรนด์ลูกในชื่อ THAI สำหรับอาหารแช่แข็งอื่น ๆ เช่น ข้าวผัดต้มยำมันกุ้ง ข้าวผัดกระเพราคลุก ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวสังขยา ฯลฯ รวมแล้วมีถึง 62 SKU พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ โดยกำหนดราคาแบบทุกคนเข้าถึงได้ อยู่ที่ 60-100 บาท
“เราอยากให้อาหารไทยที่ไปต่างประเทศยังคงรสชาติแท้ ๆ แบบท้องถิ่น ไม่ใช่อาหารไทยแบบกลายพันธุ์”

ในแบรนด์ THAI มีทั้งเมนูข้าวผัดต้มยำมันกุ้ง ข้าวผัดหมูตุ๋นสไตล์โคราช ข้าวผัดกะเพราหมู-ไก่-ทะเล ผัดขี้เมา ยำวุ้นเส้น และของกินเล่นอย่างปอเปี๊ยะผัดไทย หรือแม้แต่ของหวานฟิวชันอย่าง ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน และข้าวเหนียวถั่วดำ
สำหรับแบรนด์ “THAI” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสินค้า 27 SKU ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 พร้อมวางจำหน่ายในกูร์เมต์มาร์เก็ต และหน้าร้านทิพย์สมัย ส่วนตลาดร้านสะดวกซื้อ “คุณหนุ่ย” บอกว่า ไม่อยากสู้กับค่าฟีที่ต้องเสียให้กับแบรนด์ร้านสะดวกซื้อ แต่สำหรับตลาดต่างประเทศ มีแผนที่จะเจรจากับคู่ค้าใหม่ๆ จากที่มีผู้สนใจแล้วกว่า 10 ประเทศเพิ่ม เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ปานามา ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อนาคตยังมองโอกาสทำอาหารชิลด์ฟู้ด และอื่นๆ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดต่อไปอีก

เมื่อธุรกิจร้านอาหารต้องมองไกลถึงอุตสาหกรรม
ทิพย์สมัยไม่ได้ละทิ้งร้านอาหาร แต่เลือกเดินสองขา — ขาหนึ่งอยู่กับ “ร้าน” อีกขาเข้าสู่ “อุตสาหกรรม” เพื่อลดความเสี่ยงในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอน ทั้งจากบทเรียนของร้านดั้งเดิมที่ต้องปิดบ่อยครั้ง และแรงงานคนที่มีจำกัด
“ที่ร้านรอลูกค้ามาหา แต่ขาอุตสาหกรรม เราควบคุมต้นทุน คุมคุณภาพ และไปได้ไกลกว่า”
“คุณหนุ่ย” ย้ำเลยว่า ทิพย์สมัยเกิดมาจากร้านอาหาร เขาจะไม่ทิ้งช่องทางตลาดร้านอาหารแน่นอน ส่วนการเติบโตต่อไป พร้อมทั้งการวางแผนหาผู้สานต่อในอนาคต ขณะนี้มองหลานชายที่เริ่มเข้ามาช่วยกิจการ เพราะเขาเองไม่มีทายาท แต่อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน หากหลานไม่สนใจสานต่อ เขาก็พร้อมบริจาคทุกอย่างเป็นสาธารณกุศล