
ดีลอยท์เผยรายงานล่าสุด ภายในปี 2593 เทคโนโลยี AI สามารถลดต้นทุนความเสียหายจากภัยธรรมชาติได้สูงถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี พร้อมหนุนให้ผู้นำทั่วโลกลงทุน สร้างความยืดหยุ่นให้โครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน
รายงานฉบับใหม่จากศูนย์ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของดีลอยท์ เรื่อง “AI เพื่อความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐาน” (AI for Infrastructure Resilience) ชี้ว่า AI คือกุญแจสำคัญในการลดความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลก โดยสามารถช่วยโลกประหยัดงบประมาณในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานภายในปี 2593 ได้ถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็น 15% ของความเสียหายทั้งหมดที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น โครงสร้างพื้นฐานเสี่ยงเพิ่ม
ภายในปี 2593 คาดว่าภัยธรรมชาติจะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกกว่า 460,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยพายุและอุทกภัย จะเป็นต้นเหตุหลักของความเสียหาย
ความเสี่ยงสูงไม่จำกัดแค่โครงสร้างเก่า แต่รวมถึงโครงการใหม่ที่ยังไม่มีระบบรองรับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
AI พลิกโฉมการวางแผน รับมือ และฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ
ดีลอยท์ระบุว่า AI ไม่เพียงช่วยคาดการณ์ภัยพิบัติได้แม่นยำ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของวงจรโครงสร้างพื้นฐาน:
- การวางแผน: ใช้ Digital Twins หรือโมเดลจำลองเมืองด้วย AI เพื่อออกแบบและดูแลโครงสร้างอย่างแม่นยำ เช่น ป้องกันไฟป่าโดยจัดการพืชพรรณที่อยู่ใกล้สายไฟ
- การรับมือ: ระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้วย AI ช่วยตรวจจับไฟป่าและน้ำท่วมได้รวดเร็ว ตัวอย่างจากออสเตรเลียพบว่าช่วยลดความเสียหายได้ 100–300 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- การฟื้นฟู: เทคโนโลยี AI เช่น OptoAI ช่วยวิเคราะห์ความเสียหายหลังเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาการซ่อมแซมและวัสดุส่วนเกินได้สูงถึง 30%
ความร่วมมือภาคส่วน: กุญแจสู่การใช้ AI อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ดีลอยท์ชี้ว่า การสร้างความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานด้วย AI ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้แก่:
- ผู้กำหนดนโยบาย: ควรสนับสนุนมาตรฐานการใช้ AI ที่เปิดกว้างและปลอดภัย ข้ามพรมแดน
- ภาครัฐ-เอกชนเจ้าของโครงสร้างพื้นฐาน: ควรลงทุนอัปเกรดระบบให้พร้อมสำหรับ AI และเปิดเผยข้อมูลเพื่อปรับปรุงโมเดล
- ภาคการเงิน-ประกันภัย: ปรับโมเดลการประเมินความเสี่ยงโดยใช้ AI และออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานยุคดิจิทัล
- บริษัทเทคโนโลยี: เร่งพัฒนาโซลูชันแบบคาร์บอนต่ำที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน
อนาคตที่ยั่งยืน ต้องเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้
คอสติ เปอร์ริคอส ผู้นำธุรกิจ GenAI ของดีลอยท์ โกลบอล เน้นย้ำว่า หาก AI ได้รับการพัฒนาและใช้อย่างทั่วถึง ภายในปี 2593 เราอาจลดความเสียหายจากภัยพิบัติลงได้เกือบหนึ่งในสาม หรือคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือกลไกปกป้องเศรษฐกิจ ชีวิต และสิ่งแวดล้อมในอนาคต
รายงานของดีลอยท์เป็นเครื่องเตือนใจว่า การลงทุนใน AI เพื่อความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น ท่ามกลางภัยธรรมชาติที่ถี่และรุนแรงขึ้น การเร่งใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง
