GC รุกธุรกิจคาร์บอนต่ำ ขยาย Biorefinery ผลิตเคมีชีวภาพ-พลาสติกชีวภาพมูลค่าสูง

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:2 Minute, 2 Second

GC เดินหน้าผลักดันโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) แบบครบวงจร เพื่อพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมโลกที่มุ่งสู่ ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Products) และใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC หลังประสบความสำเร็จในการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) รายแรกของประเทศไทย GC ได้ต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ (Bio-Chemicals) และ พลาสติกชีวภาพ (Bio-Polymers) ที่สามารถใช้ทดแทนวัสดุจากฟอสซิลได้ โดยมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำ และรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ ยาง และสิ่งทอ

ในเฟสแรก GC ผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว 3 รายการ ได้แก่:

  • Bio-Propylene สำหรับบรรจุภัณฑ์ ของเล่น และชิ้นส่วนรถยนต์
  • Bio-BD (Bio-Butadiene) สำหรับยางรถยนต์และรองเท้ากีฬา
  • Bio-PTA สำหรับเส้นใยโพลีเอสเตอร์และขวด PET

พร้อมเดินหน้าแผนผลิตวัตถุดิบชีวภาพอื่นๆ เช่น Bio-Naphtha, Bio-PE และ Bio-MEG ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร ถุงพลาสติก และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เพื่อลดการพึ่งพาฟอสซิลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

GC ชูจุดแข็งของโรงกลั่นชีวภาพในการเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบทางการเกษตรและของเสียในประเทศ เช่น น้ำมันพืชใช้แล้ว (UCO) ผ่านกระบวนการ Co-processing ที่ลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างมีนัยสำคัญ ตอบโจทย์ทิศทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชน และเสริมความยั่งยืนในห่วงโซ่อุตสาหกรรม

ทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า

“GC มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำธุรกิจคาร์บอนต่ำ โดยพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงที่ใช้วัตถุดิบหมุนเวียนแทนฟอสซิล สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ไทยกำลังผลักดัน และเสริมความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก”

ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของ GC ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS ซึ่งครอบคลุมด้านความยั่งยืนของวัตถุดิบชีวภาพ ช่วยให้แบรนด์ที่นำไปใช้งานสามารถสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม

GC ยังมุ่งพัฒนานวัตกรรม ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งมอบโซลูชันเคมีภัณฑ์คาร์บอนต่ำที่ครอบคลุมทุกความต้องการของอุตสาหกรรม ตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนของภูมิภาค

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

SCB–NIA–depa ปั้น 109 ธุรกิจไทยสู่องค์กรนวัตกรรมดิจิทัล

SCB–NIA–depa ปิดฉาก IBE รุ่น 6 ปั้น 109 ธุรกิจไทยสู่องค์กรนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมปรับกลยุทธ์ ESG สู่ความยั่งยืน

You May Like