SAF ทางรอดของอุตสาหกรรมการบิน? เมื่อการบินไทยเปิดเวทีถกอนาคตพลังงานสะอาดในงาน “Flying Green” เมื่อการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดกลายเป็นประเด็นเร่งด่วน
ท่ามกลางความท้าทายของภาคการบินที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดกลายเป็นประเด็นเร่งด่วน โดยเฉพาะการใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) หรือเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน ที่ได้รับการจับตามองว่าอาจเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบินโลก
ในบริบทนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมธุรกิจสายการบิน (BAR) จึงได้จัดงานสัมมนา “Flying Green: Thailand’s Sustainable Aviation Fuel Forum” ณ สำนักงานใหญ่การบินไทย เพื่อเปิดเวทีให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาครัฐ เอกชน และสายการบิน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศักยภาพ ข้อจำกัด และแนวทางขับเคลื่อน SAF ในประเทศไทย

สามแรงขับเคลื่อนหลัก: นโยบาย – เทคโนโลยี – การใช้งานจริง
- ผู้กำหนดนโยบาย: จากวิสัยทัศน์สู่การลงมือทำ
ผู้แทนจากองค์กรกำกับดูแล เช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ข้อมูลถึงความคืบหน้าในการวางกรอบนโยบาย SAF ในประเทศไทย ทั้งในด้านมาตรฐานความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐาน และแนวทางสนับสนุนเชิงเศรษฐศาสตร์
ขณะเดียวกัน IATA หรือสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่มีบทบาทในการกำหนดแนวทางลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบิน ได้แบ่งปันประสบการณ์การขับเคลื่อน SAF ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือข้ามพรมแดนและการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง

- ผู้ผลิต SAF: ไทยมีวัตถุดิบ แต่ยังต้องการการลงทุนและการเชื่อมโยง
ในเวทีนี้ ผู้ผลิต SAF รายสำคัญของไทย อย่าง PTTOR, บางจากฯ และ มิตรผล ไบโอฟูเอล เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิต SAF จากวัตถุดิบชีวภาพ เช่น กากน้ำตาล น้ำมันพืชใช้แล้ว และของเสียจากการเกษตร พร้อมระบุว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านวัตถุดิบและโครงสร้างโรงกลั่นเบื้องต้น แต่ยังขาดระบบสนับสนุนด้านการเงิน การวิจัย และกลไกราคาที่จูงใจการลงทุน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้นทุนการผลิต SAF ยังคงสูงกว่าน้ำมันเครื่องบินปกติหลายเท่าตัว การมีนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจนจึงเป็นปัจจัยสำคัญ
- สายการบิน: ความพร้อมและความท้าทายในการใช้งานจริง
ตัวแทนจากสายการบิน ได้แก่ การบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส และ กลุ่มลุฟท์ฮันซา ได้ร่วมสะท้อนถึงมุมมองจากผู้ใช้งานจริง โดยชี้ว่าแม้สายการบินจำนวนมากต้องการเปลี่ยนมาใช้ SAF แต่ยังติดข้อจำกัดด้านต้นทุน การเข้าถึงซัพพลาย และความไม่แน่นอนของนโยบายในระดับภูมิภาค
กัปตันจากบางกอกแอร์เวย์สให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองใช้ SAF กับเที่ยวบินจริงในต่างประเทศ ส่วนลุฟท์ฮันซา ซึ่งเป็นหนึ่งในสายการบินยุโรปที่ลงทุนด้าน SAF มากที่สุด ได้แชร์ประสบการณ์การใช้โมเดลซื้อขายเครดิตคาร์บอนร่วมกับการใช้ SAF ในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
จากเวทีสู่การปฏิบัติ: SAF ไม่ใช่แค่ “ทางเลือก”
ชาย เอี่ยมศิริ CEO การบินไทย กล่าวว่า การใช้ SAF ไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่เป็น “ความจำเป็น” หากอุตสาหกรรมการบินจะอยู่รอดในโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
ขณะที่ กรกฏ ชาตะสิงห์ นายกสมาคมธุรกิจสายการบิน มองว่า เวทีเช่นนี้ไม่ควรเป็นเพียง “เวทีสนทนา” แต่ต้องนำไปสู่การกำหนดแผนปฏิบัติจริง ทั้งในระดับบริษัท รัฐ และอุตสาหกรรม

การพัฒนา SAF ในไทย: โอกาสใหม่ของประเทศ?
งานสัมมนานี้ยังสะท้อนภาพที่กว้างกว่าเรื่องการบิน นั่นคือศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น “ฮับ SAF” ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมื่อมีฐานการเกษตรขนาดใหญ่ วัตถุดิบชีวมวลหลากหลาย และเครือข่ายการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่เริ่มลงหลักปักฐานแล้ว
พื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมของ PTTOR, PTTGC และการบินไทย ช่วยยืนยันถึงการพัฒนาที่เริ่มเป็นรูปธรรม แม้จะยังอยู่ในระยะตั้งต้น แต่การสนับสนุนร่วมกันจากทั้งสามภาคส่วนจะเป็นตัวกำหนดว่า SAF ในไทยจะ “ทะยาน” หรือ “ติดลม”
