โลตัส เป็นอีกหนึ่งธุรกิจใหญ่ค้าปลก ที่ออกมาประกาศชัดเจน กับการเดินหน้าสู่ธุรกิจยั่งยืน พร้อมเซ็ทเป้า การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ.2030 และองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ.2050
เมื่อเป้าหมายชัด แผนการขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมายเหล่านั้น ก็ต้องชัดเจนด้วยเช่นกัน
“สลิลลา สีหพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบุคคลและความยั่งยืน บริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างค้าปลีกโลตัส กล่าวถึงการประกาศเป้าหมาย มุ่งสู่การเป็น “New SMART Retail” ของโลตัส ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญของการเดินหน้าสู่เป้าความยั่งยืน ภายใต้นโยบาย Vision 2030. Actions every day. ว่าด้วยการสร้างความยั่งยืนจากการดำเนินงานในทุกวัน และทุกมิติ เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ได้วางไว้ภายในปี ค.ศ. 2030
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/11/S__26984920-840x561.jpg)
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเครือเจริญโภคภัณฑ์ นโยบายด้านความยั่งยืนของโลตัสที่ดำเนินมาต่อเนื่อง ถือว่าสอดคล้องไปกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน 15 ข้อของกลุ่มซีพี อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) 17 เป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมี 5 ข้อหลักๆ ที่โลตัสนำมาปรับให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG)
- ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ประกอบด้วย
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate resilience) ด้วยเป้าหมายการเดเิหน้าสู่ความเป้นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยกาซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/11/S__26984898-840x559.jpg)
โลตัสมีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น อาทิ การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซล่าร์เซลล์บนหลังคาของสาขาโลตัส และศูนย์กระจายสินค้า 1,042 สาขา ภายในปี 2567 โดยปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 522 สาขา นอกจากนี้ ยังใช้รถพลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี ในการขนส่งสินค้า และยังมีีแผนขยายการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในศูนย์ของโลตัสสาขาต่างๆ ซึ่งจะมีความคืบหน้าชัดเจนในปี 2566 รวมถึงการปลูกต้นไม้เพิ่มเติมจากดำเนินการแล้วกว่า 20 ล้านต้น
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/11/S__26985286-840x559.jpg)
รวมทั้งยังมีการนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด เช่น การลดปริมาณของเสียจากการนำขยะไปฝังกลบ ลดขยะจากอาหารเป็นศูนย์ ด้วยการนำอาหารที่ยังรับประทานได้ไปบริจาค และเพื่อไม่ให้เกิดของเสียที่ปลายทาง จะแจกจ่ายแต่พอดี รวมถึงการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์โลตัสหรือเฮ้าส์แบรนด์ เป็นวัสดุรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2566 ซึ่งขณะนี้ทำไปได้แล้วกว่า 97%
- ด้านสังคม (Social)
โลตัสให้ความสำคัญกับเรื่องของ Healh & Well-Being ด้วยการสนับสนุนการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค โดยตั้งเป้าผลักดันให้ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าและบริการที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 70-80% ที่ใส่ใจต่อสินค้าและบริการที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งโลตัสต้องการผลักดันให้ถึง 100% ภายในปี 2030 โดยส่วนของสินค้าแบรนด์โลตัส จะพยายามปรับให้เป็นสินค้าและบริการที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การปรับสูตรลดปริมาณน้ำตาล ลดความมัน ลดแคลอรี่ เป็นต้น
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/11/S__26984901-840x610.jpg)
การผลักดันเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายดังกล่าว “สลิลลา” กล่าวว่า โลตัสจะใช้กลยุทธ์ด้านราคา การจัดโปรโมชั่น และแจกคะแนนสะสม และยังใช้ช่องทางออมนิชาแนล รวมทั้งให้ความรู้ข้อมูลส่งเสริมเรื่องสุขภาพ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสุขภาพให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังทำเรื่อง Social Impact & Economic Contribution ซึ่งมีเป้าหมายการสร้างงาน 2 แสนตำแหน่ง ภายในปี 2030 โดยนอกจากการจ้างงานปกติแล้ว ยังมีการจ้างงานผู้สูงวัย การส่งเสริมผู้พิการให้มีงานทำ รวมไปถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่ม มีช่องทางทำกินที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการจ้างงานแล้วกว่า 119,000 ตำแหน่ง
- บรรษัทภิบาล (GOVERNANCE)
Responsible Supply Chain Management 100% ของสินค้าแบรนด์โลตัส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน 100% ของคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 1 ได้รับการทวนสอบและประเมินความเสี่ยง
โลตัสจะมีระบบตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่ ซัพพลายเออร์ทุกรายจะต้องดำเนินการตามแผนพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกลุ่มสินค้าลำดับต้นๆ ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ เช่น ประมง เสื้อผ้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบในประเด็นต่างๆ เช่น เรื่องของแรงงานที่ถูกต้อง มีการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน เป็นต้น
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/11/S__26984911-840x559.jpg)
จากเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2030 และองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2050 โลตัสจะพยายามปรับลดผ่านการดำเนินงานต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ส่วนจะต้องไปซื้อคาร์บนเครดิตหรือไม่นั้น ต้องดูผลลัพธ์จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อน
ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ ซึ่งทุกฝ่าย WIN WIN ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กร ลูกค้า พาร์ทเนอร์ ทุกๆ ผู้มีส่วนได้เสีย (stakeholder) ต้องได้เหมือนกัน
![](https://www.thenicebrand.com/wp-content/uploads/2022/10/email-copy-1.png)