“ผลิตภัณฑ์ตราเพชร” หรือ DRT เดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการลงทุนโรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่ในสระบุรี พร้อมขยายตลาดสู่อาเซียน ตอบรับความต้องการวัสดุก่อสร้างประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่ทั้งโลกหันมาให้ความสำคัญกับการลดปัญหาโลกร้อน วัสดุก่อสร้างที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์จึงกลายเป็นทางเลือกหลัก “อิฐมวลเบา” หนึ่งในสินค้าหลักของ DRT กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ช่วย กันความร้อน กันเสียง น้ำหนักเบา และเป็นวัสดุก่อสร้างที่ลดการใช้พลังงานระหว่างการใช้งานอาคาร
สาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เผยว่า ในไตรมาส 3/2568 ตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศอาจชะลอตัวตามฤดูกาล แต่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนยังเติบโตต่อเนื่อง ด้วยความต้องการวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงและรักษ์โลก บริษัทจึงวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็น 20–25% ของรายได้รวมภายในปีนี้

เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น DRT เตรียมเปิดเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์โรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่ ACC-2 จังหวัดสระบุรี ในเดือนกันยายนนี้ มีกำลังการผลิต 163,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่า 2.9 ล้านตารางเมตรต่อปี ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของอิฐมวลเบา DRT เพิ่มเป็น 8.7 ล้านตารางเมตรต่อปี
อิฐมวลเบา DRT : เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม
โรงงานใหม่ ACC-2 ใช้เทคโนโลยีการผลิต The Green Cake Separating Technology ที่ช่วยลดการใช้พลังงานในกระบวนการอบอิฐมวลเบา พร้อมระบบหมุนเวียนไอน้ำและไอร้อนกลับมาใช้ซ้ำ มีระบบจัดการน้ำแบบหมุนเวียน และติดตั้งระบบดักฝุ่นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ DRT ในการสร้างโรงงานที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001 และ Green Industry Level 3

นอกจากนี้ DRT ยังเตรียม นำเสนอสินค้าอิฐมวลเบาเข้าสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มเติม โดยชูจุดเด่นที่ก่อสร้างได้เร็ว น้ำหนักเบา กันร้อนและกันเสียงได้ดี เหมาะสำหรับงานก่อสร้างสมัยใหม่ที่เน้นความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม