0
0
OR จับมือ RCL เดินหน้าทดลองใช้เชื้อเพลิง BIOFUEL กับเรือขนส่งสินค้า เสริมศักยภาพโลจิสติกส์สีเขียวของไทย ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทางทะเล
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ผนึกกำลังกับ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (RCL) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในหัวข้อ “Bio VLSFO Supply Agreement” ร่วมพัฒนาและทดลองใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) สำหรับเรือขนส่งสินค้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเดินเรือ
OR ผลักดันพลังงานทางเลือกผ่าน BIOFUEL
ไพศาล อุดมกุลวณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเอนเนอร์ยี่โซลูชัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ OR ในการขยายตลาด Alternative Fuel สำหรับเรือเดินสมุทร โดยเชื้อเพลิง BIOFUEL ที่พัฒนาขึ้น เป็นการผสมน้ำมันเตากำมะถันต่ำ (VLSFO) กับ UCOME (Used Cooking Oil Methyl Ester) ซึ่งผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้วผ่านกระบวนการกลั่น
RCL ในฐานะพันธมิตรธุรกิจระยะยาวของ OR เป็นบริษัทเดินเรือรายแรกที่เข้าร่วมโครงการนี้ โดยเริ่มใช้งานจริงกับเรือขนส่งสินค้า ถือเป็นก้าวสำคัญของการลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ในภาคขนส่ง พร้อมสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการนำน้ำมันใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
RCL ขานรับนโยบาย IMO เดินหน้าลดคาร์บอนในภาคขนส่งทางทะเล
ทางด้าน RCL ยืนยันความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร โดยการใช้น้ำมัน BIOFUEL ไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามข้อกำหนดขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ในการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลทั่วโลก
การลงนามในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ยังสะท้อนถึงเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งระหว่าง OR และ RCL ที่ร่วมงานกันมายาวนาน
ต่อยอดนโยบาย OR 2030 GOALS และ BCG Economy ของไทย
การขับเคลื่อนโครงการ BIOFUEL นี้ ยังสอดคล้องกับ เป้าหมาย OR 2030 GOALS ในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และตอบโจทย์นโยบาย BCG Economy (Bio-Circular-Green Economy) ของภาครัฐ
นอกจากจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการเดินเรือที่ต้องการลดคาร์บอนแล้ว ยังเป็นโอกาสในการเสริมความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลจิสติกส์โลกที่กำลังมุ่งหน้าสู่การเป็น “Green Shipping Hub”
