กลุ่มสิงห์ เอสเตท ดึงไฮท์ไลต์ความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มทางเลือกท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:6 Minute, 5 Second

สิงห์ เอสเตท ผนึกกำลังบริษัทในเครือ ดึงความงดงามและความหลากหลายทางชีวภาพของนก ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จัดโครงการ The Nature Trail เส้นทางเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะนก

ศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท ร่วมกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “ความหลากหลายทางชีวภาพของนก” กับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (BCST) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เพื่อร่วมกันรักษาและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพของนก ถิ่นอาศัย และทรัพยากรธรรมชาติแก่สังคม ตลอดจนสร้างแรงกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โครงการ “ความหลากหลายทางชีวภาพของนก” สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ภายใต้แนวคิด Sustainable Diversity ที่ส่งเสริมความหลากหลายที่สมดุลเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปรัชญาการพัฒนาที่กลุ่มบุญรอดให้ความสำคัญและมุ่งมั่นดำเนินการมาโดยตลอด

การดำเนินงานของโครงการนี้ ครอบคลุมทั้งในระดับการป้องกัน การรักษา และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืน รวมไปถึงการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) โดยเราเปิดโอกาสให้ลูกค้า พนักงาน ชุมชน และผู้ที่สนใจ ให้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการทำงานและการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

”สิงห์ เอสเตท และบริษัทฯ ในเครือ เราพร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อเป็นกระบอกเสียงส่งต่อให้แก่ผู้ที่สนใจผ่านช่องทางและกิจกรรมของบริษัท อาทิ โครงการ The Nature Trail ที่จัดทำเส้นทางเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะนก ซึ่งนับเป็นสัตว์ที่สามารถบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน โดยเราสามารถพบเจอได้ตลอดเส้นทางทั้งเหยี่ยวขาว นกแว่นตาขาวสีทอง และนกกระตี๊บแดง โดยนักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสเรียนรู้ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานและยั่งยืน” ศิริธร กล่าว

ผลสำรวจของ Booking.com เกี่ยวกับแนวโน้มการท่องเที่ยวของคนไทย ระบุว่าในปี 2567 คนไทยมองว่าชีวิตคือการเดินทาง โดยการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ถูกพิจารณาว่าเป็นสุนทรียศาสตร์ของการเดินทางแบบยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้การออกแบบเชิงนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น และก่อให้เกิดทางเลือกการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์รูปแบบใหม่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ไม่ได้ต้องการเพียงแค่ทริปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบสั้นๆ เท่านั้น แต่ยังนำแนวคิดด้านการอนุรักษ์มาเป็นแรงบันดาลใจและปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อเป้าหมายในการช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสร้างผลเชิงบวกต่อชุมชนและสังคมเพิ่มมากขึ้น โดยรายงานนี้มีผลการสำรวจที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ

• 78% ของนักท่องเที่ยว มองหาที่พักที่มีนวัตกรรมด้านความยั่งยืนที่โดดเด่น

• 83% ของนักท่องเที่ยว ต้องการเห็นการดำเนินการด้านความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม ในขณะที่ 65% ต้องการที่พักที่มีการตกแต่งภายในด้วยพื้นที่สีเขียวและประดับด้วยต้นไม้ราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

• ผู้เดินทางจำนวนมากสนใจแพลตฟอร์มการเดินทางแบบยั่งยืนที่มีตัวเลือก หรือข้อเสนอให้สามารถปลดล็อกประสบการณ์บางอย่างได้ (84%) เช่น ข้อเสนอประสบการณ์ทดลองใช้ชีวิตกับชุมชนท้องถิ่นหรือจุดหมายที่ไม่คุ้นเคย (47%) หรือข้อเสนอทริปการเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจยังเข้าไม่ถึง (44%)

ผลสำรวจจาก ทราเวลโลก้า (Traveloka) แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวชื่อดัง เผยเทรนด์การท่องเที่ยวในปี 2567 ว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความนิยม การขายแหล่งท่องเที่ยวแบบมีเรื่องราวจะไปได้ไกล โดยพบว่า 80% ของผู้ใช้งานต้องการจองที่พักที่ผ่านการรับรองด้านบริการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ศิริธร กล่าวเสริมว่า ผลสำรวจของแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวเหล่านี้ นับเป็นเครื่องยืนยันว่าเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศกำลังได้รับความนิยมสูง ทำให้กิจกรรม Nature Trail และ Bird Walk เป็นอีกหนึ่ง Selling Point ที่ดึงดูดลูกค้าที่มีความสนใจด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จึงทำให้โรงแรมของสิงห์ เอสเตท เป็นอีกหนึ่งเดสติเนชันที่นักท่องเที่ยวเลือกมาพักผ่อน โดยในปัจจุบันได้ดำเนินกิจกรรมเส้นทางความหลากหลายทางชีวภาพแล้วหนึ่งแห่ง คือโรงแรมสันติบุรี สมุย และมีแผนที่จะจัดทำ Nature Trail ต่อไปที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย และโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ

เส้นทางสำรวจ Nature Trail ภายในบริเวณ โรงแรมสันติบุรี สมุย แบ่งออกเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่

เส้นทางที่ 1: เส้นทางเดินสำรวจนกและแมลงน้ำ เป็นเส้นทางในรูปแบบของการสำรวจนก ต้นไม้ และแมลงน้ำในคลองที่ใหลผ่านรีสอร์ต โดยมีจุดสำรวจ 13 จุด เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจในพื้นที่

เส้นทางที่ 2: เส้นทางเดินสำรวจแมลงน้ำและไลเคน โอบล้อมด้วยไม้พุ่มชนิดต่าง ๆ โดยเป็นเส้นทางการเรียนรู้เรื่องแมลงและแมงมุมกลุ่มต่างๆ เป็นหลัก และกำหนดให้มีจุดสำรวจ 13 จุด

เส้นทางที่ 3: เส้นทางเดินสำรวจสัตว์ชายหาดและนกน้ำ เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังบริเวณหาดของรีสอร์ต เน้นการเชื่อมโยงพื้นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในโซนแห้งไปถึงบริเวณชายหาด และกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบนิเวศชายหาด

สำหรับโครงการที่โรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ มีการสำรวจพบนกรวม 63 ชนิด จากสิ่งมีชีวิตทั้งหมด 229 ชนิด มีการแบ่งเส้นทางสำรวจออกเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่

เส้นทางที่ 1: เส้นทางวิ่ง/จักรยาน สำรวจพันธุ์ไม้ป่าชายเลนนกนานาชนิดทั้งช่วงเช้าและเย็น รวมถึงเวลากลางคืน ซึ่งสามารถศึกษาสิ่งมีชีวิตที่หากินตอนกลางคืนได้ มีโอกาสพบสัตว์ในกลุ่มแมลง แมงมุม และสัตว์เลื้อยคลานที่หายากได้

เส้นทางที่ 2: เส้นพายเรือคายัค (2 กิโลเมตร) เน้นกลุ่มนกทะเล ปู และหอยบริเวณป่าชายเลน รวมถึงฝูงปลาวัยอ่อน และการศึกษาลักษณะโครงสร้างของต้นโกงกาง

เส้นทางที่ 3: เส้นพายเรือคายัค (1 กิโลเมตร) สำรวจปลานานาชนิด ทั้งฝูงปลาวัยอ่อน ปลาไหลมอเรย์ลายหินอ่อน ปลาจิ้มฟันจระเข้ โดยเฉพาะปลาอมไข่ตาสีฟ้า (Orbiculate cardinal fish) ที่รายงานพบเป็นครั้งแรกที่บริเวณป่าชายเลนโละบาเกาจากการสำรวจครั้งนี้

โครงการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพที่บริษัทฯ ดำเนินการในครั้งนี้ นอกเหนือจากความร่วมมือจากบริษัทฯ ในเครือแล้ว ยังมีมูลนิธิโลกสีเขียว ชุมชนโละบาเกา หมู่เกาะพีพี ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ร่วมเป็นพันธมิตรในการค้นคว้าและรักษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ควบคู่กับการบริหารจัดการอย่างสมดุลทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อมและธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อให้ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Ecotourism) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือจากสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ซึ่งทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในประเทศไทย เป็นที่ดึงดูดต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจากยุโรป สหราชอาณาจักร อเมริกา ภูมิภาค เอเชีย รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สิงห์ เอสเตท และบริษัทฯ ในเครือ พร้อมร่วมส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งต่อคุณค่าให้กับทุกชีวิต เพื่อดูแลปกป้องดูแลโลกใบนี้ร่วมกันอย่างยั่งยืน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

CPF คว้าคะแนนสูงสุดดัชนีความยั่งยืน DJSI กลุ่มอาหาร

ซีพีเอฟ คว้าอันดับ 1 DJSI กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารโลก ร่วมเป็นสมาชิกต่อเนื่องปีที่ 9 ประเภทตลาดเกิดใหม่ ตอกย้ำแนวทางขับเคลื่อนองค์กร สร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีโภชนาการ

You May Like