อินโดรามา ผลักดันนวัตกร ต่อยอดไอเดียเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่โปรดักส์รักษ์โลก

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:6 Minute, 21 Second

อินโดรามา เวนเจอร์ส จับมือพันธมิตร ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านสิ่งแวดล้อมคนรุ่นใหม่ ต่อยอดแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่โปรดักส์รักษ์โลก “ทีม SCPB” นวัตกรไทย ชูนวัตกรรมอิฐก่อสร้างจากขยะคว้าแชมป์ ชนะเลิศการประกวด Circular Innovation Challenge 2023 

สุจิตรา โลเฮีย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ และประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมด้วย 5 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริษัท TikTok ประเทศไทย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) SDG Lab และ GLab ประกาศผลผู้คว้ารางวัลชนะเลิศจากโครงการประกวดนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน ปี 2566 (Circular Innovation Challenge 2023) คือ ทีม SCPB จากประเทศไทย เจ้าของผลงานสร้างสรรค์นวัตกรรมอิฐก่อสร้างที่ใช้ประโยชน์จากขยะ

สุจิตรา โลเฮีย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ และประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)

โครงการ Circular Innovation Challenge 2023 เป็นการแข่งขันแฮ็กกาธอน ระยะเวลา 5 สัปดาห์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เกิดผู้นำทางความคิดในอนาคตผ่านนวัตกรรมที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Innovation โดยกิจกรรมนี้ถูกออกแบบให้มีเวิร์คช้อปและกิจกรรมที่เข้มข้น เพื่อเตรียมนวัตกรให้พร้อมด้วยทักษะที่จำเป็นสำหรับการคิดค้นโซลูชั่น เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันรอบสุดท้าย ซึ่งรวมถึงการเปิดเวทีอภิปรายในหัวข้อ “Securing our Future with Circular Economy and Achieving Circularity through Innovation” และหัวข้อ “Sustainable Consumption and Production Session” 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน design thinking โดย United Nations Development Program (UNDP), กิจกรรมเวิร์คช้อปด้านการสร้างคอนเทนต์ โดย Tiktok ตลอดจนการอบรมเกี่ยวกับการนำเสนอผลงาน และการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

โครงการนี้เปิดรับสมัครนวัตกรที่มีอายุระหว่าง 16-30 ปี จากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทีมสมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 830 ทีม รวมจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 3,333 คน จาก 11 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ มีทีมที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าสู่การแข่งขันในรอบสุดท้ายทั้งหมด 10 ทีม ได้แก่ ทีมจากราชอาณาจักรกัมพูชา (1 ทีม) อินโดนีเซีย (3 ทีม) ฟิลิปปินส์ (2 ทีม) ประเทศไทย (3 ทีม) และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (1 ทีม) ซึ่งทั้ง 10 ทีมนี้จะได้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรอบสุดท้าย

ทีมผู้ชนะเลิศในปีนี้ คือ ทีม SCPB จากประเทศไทย  ซึ่งได้รับรางวัลจากผลงานนวัตกรรมที่เรียกว่า “Semi-Calcite Passive Brick” หรืออิฐบล็อกประสานกึ่งแคลไซต์ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่ผสานความแข็งแรงทางโครงสร้างให้สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติในการควบคุมสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน อาทิ ความสามารถในการควบคุมความชื้น และการควบคุมอุณหภูมิ ผลิตภัณฑ์นี้มอบประโยชน์ที่เหนือชั้นให้กับทั้งแก่ช่างก่อสร้างและสิ่งแวดล้อมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  โดยช่วยเสริมประสิทธิภาพในการก่อสร้าง ลดการใช้พลังงานผ่านฉนวนกันความร้อนที่มีคุณภาพดีขึ้น และเอื้อต่อสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นด้วยการนำแนวคิดนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้  

วัสดุต้นทางที่ใช้ในการทำอิฐบล็อกนั้น มาจากระบบการหมุนเวียนภายในท้องถิ่น กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยเปลือกหอย พลาสติก และเศษแก้ว ที่เก็บรวบรวมจากชายฝั่ง ริมฝั่งแม่น้ำ หรือร้านอาหารต่างๆ

ดร. ศิรสา กันตรัตนากุล ผู้จัดการโครงการ Circular Innovation Challenge 2023 และอาจารย์ประจำที่วิทยาลัยโลกคดีศึกษา

ดร. ศิรสา กันตรัตนากุล ผู้จัดการโครงการ Circular Innovation Challenge 2023 และอาจารย์ประจำที่วิทยาลัยโลกคดีศึกษา กล่าวว่า โครงการ Circular Innovation Challenge 2023 ได้จัดขึ้นเป็นปีที่สาม เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยโลกคดีศึกษา และองค์กรพันธมิตร เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 

เยาวชนจำนวนมากที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และได้เข้าร่วมในโครงการนี้อย่างแข็งขันจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการให้ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนถือเป็นภารกิจสำคัญของวิทยาลัยโลกคดีศึกษา ในการผลิตนักคิดเชิงนวัตกรรมที่พร้อมจะสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Head of Public Policy) บริษัท TikTok ประเทศไทย

ชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ (Head of Public Policy) บริษัท TikTok ประเทศไทย แสดงความเห็นว่า TikTok มุ่งมั่นที่จะปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ครีเอเตอร์ และชุมชนทั่วทุกภูมิภาค เพื่อมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัล ควบคู่ไปกับการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการดำเนินการเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน 

ภายใต้ความร่วมมือในโครงการ Circular Innovation Challenge ทางTikTok ได้มอบความรู้และทักษะด้านดิจิทัลให้กับคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นที่พวกเขาสนใจ ความพยายามนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่และธุรกิจที่ยั่งยืน ได้เชื่อมต่อกับชุมชนผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วย 

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมและส่งเสริมการพัฒนารากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ Young Ran Hur เจ้าหน้าที่บริหารโครงการ Global Opportunities for Sustainable Development Goals (GO4SDGs) Initiative ภายใต้ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ซึ่งเป็นพันธมิตรจากองค์กรระหว่างประเทศ เน้นย้ำว่า ปี 2573 กำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเราจำเป็นต้องดำเนินการให้มากขึ้น บนพื้นฐานในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในขณะนั้น โครงการ Circular Innovation Challenge ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจและบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถ และการเชื่อมโยงคนหนุ่มสาวที่มีความคิดเหมือนกัน แต่ยังส่งเสริมการเปลี่ยนแนวคิดเหล่านี้ ให้เป็นการปฏิบัติเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงโลกที่แท้จริง

Young Ran Hur เจ้าหน้าที่บริหารโครงการ Global Opportunities for Sustainable Development Goals (GO4SDGs) Initiative ภายใต้ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP)
  • ทีมผู้ชนะเลิศ SCPB

นายคงภัทร์ ไพบูลย์นุกูลกิจ : สำเร็จการศึกษาจาก University of Creative Arts ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ก่อตั้ง และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัทสตาร์ทอัพ Phytavaren  ซึ่งเป็นผู้ผลิตอิฐก่อสร้างจากผลึกกึ่งแคลไซต์ (Semi-Calcite Passive Brick) ปัจจุบันรับตำแหน่งสถาปนิกและวิศวกรที่บริษัทสตาร์ทอัพ  Phytavaren  ก่อนหน้านี้เคยทำงานในฝ่ายออกแบบพลังงานที่สถาบันวิจัย Passive Haus ในทวีปเอเชีย และทำงานด้านการบริหารสถาปัตยกรรมที่ Lawray’s ในสหราชอาณาจักร    

นายกลย์ธัช ไพบูลย์นุกูลกิจ : จบการศึกษาปริญญาตรีด้านอสังหาริมทรัพย์ ปริญญาโทด้านการวางแผนและพัฒนาเมืองจาก University of Reading เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นประธานบริหารของบริษัท Phytavaren Technology ผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจขนาดเล็ก สตาร์ทอัพที่เน้นนวัตกรรมการพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงความยั่งยืน กลธัชเคยทำงานด้านบริหารจัดการทรัพย์สินที่ The Crown Estate ในสหราชอาณาจักร และการบริหารจัดการพลังงานที่ Schneider  Electronic

นางสาววาสิตา  บุญนวล : จบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้านกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (LLB) จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Ambassador และทนายที่ Phytavaren  Technology วสิตาเชี่ยวชาญในการประสานงานระหว่างองค์กรไม่แสวงกำไรเพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  และปัจจุบันทำงานร่วมกับผู้แทนราษฎรไทย และสหประชาชาติ

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

อาดิดาส เปิดตัว 3 โมเดลซูเปอร์โฟมใหม่ รองเท้าวิ่งตระกูล SUPERNOVA

นักวิ่งมีเฮ! อาดิดาส ปรับโฉมรองเท้าวิ่งตระกูล SUPERNOVA ชูจุดเด่นซูเปอร์โฟมแบบใหม่ เติมพลังความนุ่ม กระชับ 3 โมเดล SUPERNOVA RISE, SUPERNOVA SOLUTION และ SUPERNOVA STRIDE ราคาเบาๆ 3,600 – 4,700 บาท

You May Like