Wongnai ผนึก eatigo จองโต๊ะอาหารผ่านแอป ไม่ต้องยืนรอคิว

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 47 Second

Wongnai ผนึก eatigo เดินหน้าขยายตลาด ผ่าน O2O Platform เพิ่มบริการอำนวยความสะดวกผู้บริโภค ผ่านฟีเจอร์ใหม่ จองโต๊ะร้านดังกว่า 850 ร้าน ผ่านแอปฯ คาดการณ์ตลาดฟู้ดส์ดิลิเวอรี่และการจองโต๊ะออนไลน์ขยายตัวจากตลาดรวม 1.2 หมื่นล้าน อย่างน้อย 50%

Wongnai และ eatigo ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์อันดับ 1 ด้านไลฟ์สไตล์ ไดนิ่งของไทย ต่อจิ๊กซอว์ O2O Platform เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้จองโต๊ะร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ ผ่านแอปฯ Wongnai พร้อมรับดีลสุดคุ้มจาก eatigo สูงสุด 50% ปักหมุดให้จองโต๊ะร้านดังกว่า 850 ร้าน ทั่วกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ โดยเตรียมขยายเป็น 1,500 ร้าน ภายใน 6 เดือน หรือขยายตัวอย่างน้อย 50% และเตรียมเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ที่จังหวัดภูเก็ตภายในเดือน พ.ย. นี้ ตั้งเป้ารวบบริการด้าน “ไลฟ์สไตล์ ไดนิ่ง” บนแอปฯ เดียวเพื่อตอบโจทย์สายกิน-ดื่ม-ชิล พร้อมดันตลาด O2O ด้านร้านอาหารในไทยโต

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ O2O (Online-to-Offline) ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมร้านอาหารในประเทศไทยในปีนี้โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมูลค่าตลาดรวมทั้งบริการฟู้ดเดลิเวอรี่และการจองโต๊ะออนไลน์มีมูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 3-4 เท่า ด้วยปัจจัยบวกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงเวลาการทำงานและการเรียนของคนทุกช่วงวัยทำให้มีเวลาน้อยลง พฤติกรรมการกินของคนเมืองที่มองหาความหลากหลายทางรสชาติ การเข้าถึงสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น ฯลฯ

Wongnai เองเป็นผู้นำด้านซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่ไม่ใช่แค่ให้ค้นหาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงบนแพลตฟอร์มของเราเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความมุ่งมั่นในการเป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยสามารถเปิดใช้ได้ในทุกวัน ดังนั้น การคิดค้นและพัฒนาบริการ Lifestyle Online-to-offline จึงเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของ Wongnai ในการต่อจิ๊กซอว์สู่การเป็น O2O Platform เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ โดยเฉพาะเรื่องไลฟ์สไตล์กิน-ดื่ม-ชิล ที่สามารถเปิดแอปฯ Wongnai เพียงแอปฯ เดียวก็สามารถอ่านรีวิว สั่งเดลิเวอรี่ รวมไปถึงสามารถจองโต๊ะผ่านแอปฯ ได้เลย โดยฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ล่าสุดที่ Wongnai จับมือกับ eatigo ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งด้านบริการจองร้านอาหารออนไลน์”

นายภูมินทร์ ยุวจรัสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง eatigo กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำเอา คนไทยผู้ชื่นชอบการกิน-ดื่ม-ชิลกว่า 12 ล้านคนบน Wongnai มาพบกับโต๊ะว่างในร้านอาหารมากมายและดีลสุดพิเศษบน eatigo โดยเราเชื่อว่าฟีเจอร์จองโต๊ะนี้จะช่วยแก้ปัญหาทั้งจากฝั่งผู้บริโภคที่ไม่จำเป็นต้องรอคิวหน้าร้านเป็นเวลานานและยังสามารถวางแผนเรื่องเวลา ยามไปทานอาหารมื้อสำคัญได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังได้รับดีลพิเศษจาก eatigo สูงสุด 50% อีกด้วย ส่วนฝั่งของร้านอาหารก็ยัง

สามารถจัดการคิวลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สำหรับในช่วงแรก eatigo ได้รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ชื่อดังกว่า 850 ร้าน* ทั่วกรุงเทพฯ พัทยา และเชียงใหม่ ที่สามารถจองโต๊ะผ่านแอปฯ Wongnai ได้ โดยคาดหวังว่าจะมียอดการจองโต๊ะอย่างน้อย 500 ยอดจองต่อเดือน และตั้งเป้าขยายอีกกว่า 1,500 ร้าน ภายใน 6 เดือน โดยจะเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ที่จังหวัดภูเก็ตภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และมีแผนที่จะเปิดในจังหวัดกระบี่ในอนาคต ซึ่งการร่วมมือกันระหว่าง Wongnai และ eatigo ครั้งนี้จะเป็นการช่วยเร่งการเติบโตของตลาด Food O2O โดยรวมอย่างแน่นอน

การจองโต๊ะอาหารผ่านแอปฯ Wongnai เริ่มจากการเปิดแอปฯ กด “จอง (Reserve)” และระบุจำนวนคนและวันที่ต้องการจอง พร้อมใส่ Promo Code เพื่อรับดีลพิเศษจาก eatigo เลือกช่วงเวลาที่ต้องการจอง จากนั้นกดยืนยันเพื่อรอรับการแจ้งเตือนผ่าน SMS, Email และแอปพลิเคชัน โดยสามารถแจ้งชื่อที่ใช้จองที่ร้านเมื่อถึงเวลาจอง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อร้านที่สามารถจองโต๊ะได้ ได้บนเว็บไซต์ Wongnai

จุดเด่นของการจองโต๊ะผ่านแอปฯ Wongnai คือ ดีลพิเศษ ที่ eatigo จัดเป็นส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมรับสิทธิพิเศษต่อที่ 2 ใส่ Promo Code “WNEATIGO” เพื่อรับ eatigo Cash Voucher 100 บาท (ใช้ได้ 2 ครั้ง) เฉพาะวันนี้ถึง 15 ธันวาคมนี้เท่านั้นหรือจนกว่า Promo Code จะหมด และสามารถใช้สิทธิ eatigo Cash Voucher ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

อว.คลอดโรดแมพ ตั้งเป้า 8 ปี ไทย Zero Waste

อว.ประกาศโรดแมพขยะเป็นศูนย์ ภายในปี 2570 พร้อมประกาศเลิกใช้ 4 ขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถุง-แก้ว-หลอดพลาสติกและกล่องโฟมในปี 2565 นำร่องลดใช้พลาสติกจากหน่วยงานในสังกัดอว.ทั้งหมด