สายการบินนกสกู๊ต ประกาศยุติกิจการ หลังวันนี้ คณะกรรมการมีมติ เผยปัญหา การแข่งขันสูง ขยายเส้นทางบินยาก และรับผลกระทบโควิด -19
สายการบินสกู๊ตซึ่งเป็นเจ้าของ 49% ของสายการบินนกสกู๊ต ขอแสดงความเสียใจในการประกาศว่าคณะกรรมการของสายการบินนกสกู๊ตได้มีมติในวันนี้ (26 มิถุนายน 2563) ที่จะขอยุติกิจการของสายการบิน ผู้ถือหุ้นของสายการบินนกสกู๊ต จะพิจารณาตามมติเดียวกันนี้ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในอีกประมาณ 14 วัน
สายการบินนกสกู๊ตซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างสายการบินสกู๊ตและสายการบินนกแอร์ของประเทศไทย ไม่สามารถทำกำไรได้ทั้งปี นับตั้งแต่ที่สายการบินได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยปัจจัยส่วนใหญ่มาจากความยากลำบากในการขยายเส้นทาง และสภาวะแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง รวมถึงความท้าทายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง
ด้วยเหตุนี้ สายการบินสกู๊ตจึงไม่เห็นหนทางในการฟื้นฟูและการเติบโตที่ยั่งยืนของสายการบินนกสกู๊ต สายการบินสกู๊ตได้พิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปได้ ด้วยการเสนอขายหุ้น 49% ในสายการบินนกสกู๊ตให้กับสายการบินนกแอร์ด้วยมูลค่ารวมที่ 1 บาท แต่ข้อเสนอนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบ
เราจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้มีการตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า เราขอยุติกิจการสายการบินนกสกู๊ต
สายการบินสกู๊ตรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากที่ผู้เดินทางและลูกค้าชาวไทยทุกท่านให้การสนับสนุนแก่สายการบินนกสกู๊ตมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557
ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับกลุ่มบรรษัทสิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซิลค์แอร์ และสกู๊ตมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าในประเทศไทยต่อไปด้วยการดำเนินงานที่มีอยู่